Lamborghini ประกาศเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกในชื่อ “Lamborghini Lanzador EV” เพื่อมาแข่งขันกับธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำอย่าง Tesla หลังจากมีรายงานว่ารถ Tesla มีมูลค่าลดลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
“Lamborghini เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% อย่างเป็นทางการเพื่อแข่งขันกับ Tesla” Watcher.Guru กล่าวบนแพลตฟอร์ม X
ตามข้อมูลของ Lamborghini รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นนี้จะมีความสูงใต้ท้องรถที่ยกขึ้นสูงเป็นพิเศษ และแถวที่นั่งแบบ 2 ตอนหน้า-หลัง รองรับผู้โดยสารได้ 4 คน โดยรถ Lamborghini Lanzador EV จะถือเป็นซูเปอร์คาร์สุดหรูที่รวมเอา “ประสบการณ์บนรถที่ไม่เคยมีมาก่อน” ซึ่งมาพร้อมกับเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ Lanzador EV จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงในแต่ละเพลา ซึ่งมีกำลังสูงสุดมากกว่า 1 เมกะวัตต์ โดยรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดจะดึงองค์ประกอบการออกแบบมาจากรถสปอร์ต Revuelto และ Urus ดังนั้นผู้ใช้งานจึงสามารถบรรจุสัมภาระไว้ใต้ฝากระโปรงหน้า ขณะที่ฝาท้ายแบบกระจกสามารถกางเปิดได้อย่างกว้างขวาง
Lamborghini Lanzador EV ที่มา: finance.yahoo
Lamborghini Lanzador EV ที่มา: coinmarketcap
Stephan Winkelmann CEO ของ Lamborghini กล่าวว่า “ด้วย Lanzador เรากำลังมองไปสู่อนาคตโดยไม่ลืมเอกลักษณ์ของเรา รถคูเป้คันแรกจาก Lamborghini ที่มีเครื่องยนต์วางหน้าเป็นแบบสปอร์ต Gran Turismos ที่สง่างามเหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันแบบ 2+2 ที่นั่ง”
Lanzador EV จะเข้าสู่ขั้นตอนการผลิตในปี 2028 โดยทางบริษัทวางแผนจะผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดภายในสิ้นปี 2024 รวมถึง Huracan PHEV และ Urus PHEV ที่จะเปิดตัวในปีหน้า
“แลมโบ” กับ “ คริปโต”
แม้ว่าหลายคนจะรู้จัก Lamborghini ในฐานะสัญลักษณ์ที่ช่วยแสดงให้เห็นถึงสถานะสังคมของบุคคล หรือความสำเร็จในชีวิต แต่ในขณะเดียวกันนั้น เป็นที่น่าสังเกตว่าแบรนด์รถสปอร์ตระดับโลกอย่าง Lamborghini กลายเป็นสัญลักษณ์ของ “ความสำเร็จอันน่าทึ่งในวงการ Crypto” ด้วยเช่นกัน
ในช่วงปลายทศวรรษ 2010 และต้นทศวรรษ 2020 มีการพูดถึง Lamborghini เพื่อเปรียบเทียบกับราคาเหรียญ Crypto ที่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง โดยในช่วงนั้น ราคาของ Bitcoin และ Ethereum เพิ่มขึ้นหลายพันเปอร์เซ็นต์ จนส่งผลให้ผู้ถือเหรียญร่ำรวยขึ้นอย่างรวดเร็ว จนบางคนนำเงินก้อนโตที่พวกเขาทำได้มาซื้อรถ Lamborghini จนในที่สุด แบรนด์รถนี้ก็กลายเป็นคำที่ถูกนำไปกล่าวถึงเหรียญ Crypto ที่มีราคาเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในระยะเวลาอันสั้น
อย่างไรก็ตาม ตลาด Crypto ถือเป็นตลาดที่มีความผันผวนสูงมาก ดังนั้นราคาของเหรียญจึงสามารถลดลงอย่างรวดเร็วได้เช่นกัน โดยในปี 2018 ราคาของ Bitcoin และ Ethereum ลดลงอย่างรุนแรง จนส่งผลให้ผู้ถือเหรียญจำนวนมากสูญเสียเงินก้อนโต จนบางคนถึงกับถูกบังคับให้ขายรถ Lamborghini ของตนเองเพื่อชำระหนี้ ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าการเปรียบเทียบระหว่างราคาเหรียญ Crypto และ Lamborghini นั้น ถือเป็นเครื่องเตือนใจให้เราทุกคนตระหนักถึงความเสี่ยงที่มาพร้อมกับการลงทุนใน Crypto ด้วยเช่นกัน
ที่มา: coinmarketcap