ดูเหมือนว่าจะเหลือเวลาอีกไม่มากก่อนที่ Bitcoin Halving จะเกิดขึ้น โดยนักวิเคราะห์ต่างๆ ก็ได้คาดการณ์ว่าราคาของ Bitcoin (BTC) จะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงและคาดว่าราคาของมันน่าจะเกิด 100,000 ดอลลาร์
แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีความท้าทายในด้านต่างๆ ในเศรษฐกิจมหภาค เพราะในตอนนี้ไม่ได้มีการลงทุนในคริปโต หลังจากที่ราคาเหรียญลดลงไปต่ำกว่า 30,000 ดอลลาร์ และทำให้คนตั้งคำถามเกี่ยวกับราคาในอนาคตที่จะถึงนี้
ทางรองประธานของ Hut 8 อย่าง Sue Ennis ได้ออกมาให้ข้อมูลเชิงลึกในการสัมภาษณ์ล่าสุดกับ Paul Barron ว่า ราคาของ Bitocoin นั้นสามารถทะลุเกิน 100,000 ดอลลาร์ในปีหน้าได้ และหลังจาก Halving แล้ว นักขุดจะได้รับผลกระทบอะไรบ้าง
โดยในปัจจุบัน Hut 8 ได้ถือ Bitcoin ไว้กว่า 9,152 BTC เป็นทุนสำรอง โดยทางบริษัทสามารถขุด Bitcoin ได้ถึง 2.6 exahashes ต่อวินาที และได้ ขุด Bitcoin ไปกว่า 44.6 BTC ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ทาง Enis ได้คาดการณ์ว่าราคาของ Bitcoin นั้นมีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นไปแตะ 100,000 ดอลลาร์
โดยเธอ ได้มองว่า การที่นักขุดจะขาย Bitcoin หลังจาก Halving ได้นั้น จำเป็นที่จะต้องมีเครื่องขุดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะหลังจากการ Halving ในช่วงแรกๆ ราคาอาจจะไม่สอดคล้องกับความคาดหวังของนักลงทุน
และยังได้บอกว่าการที่อัตราแฮชยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั้นมาจากที่ได้มีนักขุดหน้าใหม่เข้ามาในระบบมากยิ่งขึ้นจากทั่วทุกมุมโลก โดยพวกเขาได้รับแรงหนุนจากการผลิตพลังงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังงานนิวเคลียร์และพลังงานทดแทนในตะวันออกกลาง
โดยทาง Ennis ได้แนะนำว่า เพื่อลดผลกระทบของการ Halving จำเป็นที่จะต้องกระจายแหล่งรายได้ของนักขุด เพราะนอกจากจะขุด Bitcoin ได้แล้ว นักขุดยังสามารถใช้เครื่องในการฝึก ปัญญาประดิษฐ์ได้อีกด้วย
และเธอยังกล่าวถึงผลกระทบ ถ้าหากว่า Bitcoin ETF ได้รับการอนุมัติแล้ว โดยถึงแม้จะเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าหากว่าได้รับการอนุมัติ อาจจะเกิดการเทขายหุ้นที่เกี่ยวกับการขุด Bitcoin ได้
แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ เพราะว่าความท้าทายทางเศรษฐกิจ อาจจะส่งผลให้มูลค่าของ Bitcoin ในอนาคตไม่แน่นอนได้ในระยะสั้นที่มา: CryptoIntelligence