ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ได้ประสบปัญหาถูกแฮ็กบัญชี 𝕏 (Twitter) โดยตามรายงานระบุว่าแฮ็กเกอร์นำบัญชีของเขาไปโพสต์ข้อความหลอกลวงว่า Vitalik เปิดให้เคลม NFT ฟรี พร้อมล่อให้เหยื่อเชื่อม Wallet จนมีเหยื่อรายหลงกดลิงก์ปลอม และสูญเสียเงินใน Wallet รวมกันเป็นมูลค่ากว่า 691,000 ดอลลาร์
ทั้งนี้เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ชาวเน็ตรายหนึ่งได้โพสต์ในชุมชนคริปโตบน Reddit ว่า “จะเกิดอะไรขึ้น? ถ้าหากแฮ็กเกอร์โพสต์ทวีตเทขาย Ethereum (ETH) จำนวน 100,000 ETH ในวันนี้”
“จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีอะไรเลวร้ายกว่านี้เกิดขึ้นล่ะ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้า Vitalik โพสต์ทวีตว่าผมได้เทขาย 100,000 ETH คำพูดนั่นคงจะส่งคลื่นกระแทกไปทั่วตลาด และราคาของ ETH ก็คงจะอยู่ที่สูงสุดได้แค่ในตอนนี้ เราคิดว่าฤดูหนาวของ crypto จะคงอยู่ตลอดไป” ชาวเน็ตที่ใช้นามแฝงว่า Collectibl3 โพสต์บน Reddit
โพสต์ของเขาแสดงถึงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เพราะแฮ็กเกอร์สามารถโพสต์อะไรได้ด้วยบัญชีของ Vitalik ดังนั้นถ้าหากแฮ็กเกอร์ใช้บัญชีของ Vitalik เพื่อเผยแพร่ข้อมูลผิด ๆ อย่างการโพสต์ว่า Vitalik เทขาย 100,000 ETH สิ่งนี้ก็อาจทำให้เกิดความตื่นตระหนกอย่างมากในตลาดคริปโต
นอกจากนี้ ผู้โพสต์ยังเชื่อว่าการเผยแพร่ข้อมูลปลอม ๆ ในลักษณะดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างมากต่อระบบนิเวศ Ethereum และราคาของ ETH ก็คงจะดิ่งลงอย่างหนัก ซึ่งอาจใช้เวลานานกว่าที่ตลาดจะฟื้นตัว
“ผมรู้ พวกเราคอยเตือนกันและกันมาเสมอว่า ‘อย่าฟังอินฟลู คริปโต’ แต่พอผู้ก่อตั้งอย่าง Vitalik พูดอะไรบางอย่าง ผู้คนก็มีแนวโน้มที่จะเชื่อฟังมากกว่าคำพูดของอินฟลูคนอื่น ๆ เสมอ”
พอเทียบกันแล้ว การไม่เปิดเผยตัวตนแบบผู้ก่อตั้ง BTC อย่าง Satoshi และอาจจะดีกว่า (สำหรับตอนนี้) หรือเปล่า?” Collectibl3 กล่าวทิ้งท้ายโพสต์ของเขา “อยากได้ความชัดเจนเกี่ยวกับ Vitalik บ้าง!”
Collectibl3 ชี้ให้เห็นว่า Vitalik เป็นบุคคลที่น่านับถือในชุมชนคริปโต ดังนั้นคำพูดของเขาจึงมีน้ำหนักมาก ซึ่งหมายความว่าถ้าหาก Vitalik โพสต์ข้อความที่ทำให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อ Ethereum การกระทำดังกล่าวก็อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาเหรียญได้
ในส่วนท้ายของโพสต์ Collectibl3 ได้ขอให้ Vitalik ชี้แจงจุดยืนของตัวเองในประเด็นนี้ เพราะเขากังวลว่าเหตุการณ์การแฮ็กบัญชี 𝕏 อาจทำลายชื่อเสียงของ Ethereum และเขาก็ต้องการแน่ใจว่า Vitalik กำลังดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
ที่มา: reddit