หลังจากที่ ราคา Bitcoin (BTC) ได้เพิ่มขึ้นมากว่า 5% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ ซึ่งมีสาเหตุมาจากข่าวลือเรื่องความล่าช้าในการชำระหนี้ของ Mt. Gox ที่จะถูกเลื่อนไปเป็นปี 2024 ตามรายงานของบริษัทการค้า QCP Capital
โดยกำหนดเส้นตายสำหรับการชำระหนี้ของ Mt. Gox คือวันที่ 31 ตุลาคม ซึ่งทางบริษัทถูกกำหนดให้คืนทรัพย์สินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น 142,000 BTC (3.9 พันล้านดอลลาร์) , 143,000 BCH (31.3 ล้านดอลลาร์) และเงินอีกกว่า 69 พันล้านเยน (467 ล้านดอลลาร์)
“เหตุผลสำคัญที่เราเชื่อว่า Mt. Gox จะเลื่อนการชำระหนี้ไปเป็นปี 2024 มาจากการที่เส้นตายนั้นเร็วเกินไปจนอาจส่งผลต่อตลาดในระยะสั่นได้ เช่นเดียวกับการประกาศคำตัดสินของ SEC และ GBTC เมื่อเดือนที่แล้ว”QCP Capital กล่าว
อย่างไรก็ตามทาง QCP เชื่อว่าอาจจะมีการดีดตัวของราคาได้ในระยะสั้น ที่มาจากความเสี่ยงจากทั่วโลก
อย่างเช่น การปรับอัตราดอกเบี้ยของ FED ในช่วงปลายเดือนกันยายน และคาดว่าราคา Bitcoin ในไตรมาสที่ 4 นี้ จะทำราคาเป้าหมายที่ 22,000 ดอลลาร์
ทาง QCP มองว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยที่กำลังจะมานี้ ทำให้ดัชนีความผันผวน (VIX) ของ S&P; 500 ลดลงมากที่สุด นับตั้งแต่เหตุการณ์ Covid-19 ในปี 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลต่อตลาดเก็งกำไรที่มีความผันผวนสูงอย่างเช่นตลาดคริปโต
ถึงแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลง แต่ภายในรัฐบาลกลางก็ยังมีปัญหาอยู่ไม่ว่าจะเป็นการที่เงินทุนสำหรับรัฐบาลกลางใกล้จะหมด รวมถึงราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อการปรับอัตราดอกเบี้ยได้
“ในสถานการณ์เช่นนี้หากไม่มีมาตรการผ่อนคลายของ Fed หุ้นมีแนวโน้มที่จะลดลง โดยจะส่งผลให้ Bitcoin ร่วงลงตามไปด้วย”
ก็ต้องดูกันต่อไปว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยที่จะมาถึงนี้ จะส่งผลต่อราคา Bicoin หรือไม่ โดยตอนนี้ราคา Bitcoin อยู่ที่ประมาณ 27,100 ดอลลาร์ อ้างอิงข้อมูลจาก CoinMarketCap
ที่มา: The Block