<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Bitcoin จะพุ่งแตะ $40,000 ได้จริงไม่ ? หลังตลาดคริปโตเริ่มฟื้นตัว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ตลาดคริปโตได้เริ่มเข้าสู่ช่วงขาขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดย Bitcoin (BTC) ได้พุ่งขึ้นเหนือระดับแนวต้านสำคัญที่ 30,000 ดอลลาร์

แม้ว่าราคา BTC จะลดลงเล็กน้อยในวันที่ผ่านมา แต่เหล่านักเทรดกำลังคาดกันว่าเหรียญจะแตะระดับ 40,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ได้หรือไม่

ในขณะเดียวกัน Bitcoin Minetrix (BTCMTX) สตาร์ทอัพด้านการขุดคริปโตยังคงสร้างความประทับใจให้กับนักลงทุนในช่วงพรีเซลที่มีจำกัด โดยสามารถระดมทุนไปได้มากกว่า 3.1 ล้านดอลลาร์ในช่วงแรก

บิทคอยน์ลดลงหลังจากแตะแนวต้านที่ 35,000 ดอลลาร์

ในช่วง 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคาบิทคอยน์ได้ร่วงลดลง หลังจากพุ่งแตะตุดสูงสุดตลอดกาลเหนือ 35,000 ดอลลาร์ โดยคืนกำไรบางส่วนหลังจากการประชุม FOMC รอบล่าสุด

ปัจจุบัน BTC กำลังซื้อขายกันที่ระดับ 34,850 ดอลลาร์ ลดลง 3% จากจุดสูงสุดของเมื่อวานนี้

นักวิเคราะห์ชี้ไปที่แรงซื้อที่มากจนเกินไปในตลาดฟิวเจอรส ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลดลง

เนื่องจากตลาดฟิวเจอรสมีการขยายตัวมากเกินไป การลดลงของราคาจึงสะท้อนให้เห็นถึง “การปรับลดความเสี่ยง” ของเทรดเดอร์

การพักฐานดังกล่าวอาจเป็นการช่วยให้นักลงทุนหายใจได้คล่องมากยิ่งขึ้น หลังจากการประกาศอัตราดอกเบี้ยล่าสุดของ Fed

ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ส่งสัญญาณว่า ธนาคารกลางกำลังพิจารณาชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงอย่าง สกุลเงินดิจิทัล

อย่างไรก็ตาม พาวเวลล์ย้ำว่า เฟดยังคงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการลดอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งหมายความว่าความไม่แน่นอนของนโยบายอาจยังคงอยู่ไปจนถึงปี 2024

บิทคอยน์จะสามารถพุ่งแตะ $40,000 ในปีนี้ได้หรือไม่?

ในขณะที่บิทคอยน์เริ่มมีพักฐาน คำถามที่สำคัญตามมาก็คือ บิทคอยน์จะสามารถฟื้นตัวและพุ่งไปสู่ระดับ $40,000 ก่อนจบปีนี้หรือไม่

ความคิดเห็นล่าสุดของ Fed บ่งบอกถึงความเป็นไปได้ในการยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะนำสภาพคล่องกลับคืนมาสู่ตลาดคริปโต

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความตึงเครียดและสภาวะเศรษฐกิจมหภาคยังคงสร้างแรงกดดันให้กับตลาดคริปโต ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของนักลงทุน

นอกจากนี้รูปแบบราคาในอดีตของบิทคอยน์ก่อนเกิดเหตุการณ์ Halving ยังสามารถเป็นตัวเร่งปฏิกริยาเพื่อช่วยผลักดันให้ราคา BTC พุ่งขึ้นไปสู่ระดับ 40,000 ดอลลาร์

BTC มีแนวโน้มที่จะเป็นไปตามวัฏจักรในรอบสี่ปี ซึ่งสอดคล้องกับเหตุการณ์ Halving รอบที่ผ่าน ๆ มา โดยราคามักจะพุ่งสูงขึ้นล่วงหน้าหลายเดือนก่อนเหตุการณ์ดังกล่าวเสมอ

การ Halving ครั้งต่อไปมีกำหนดในเดือนเมษายนปี 2024 ส่งผลให้บางคนคาดการณ์ว่ามูลค่าของ บิทคอยน์อาจพุ่งสูงขึ้นในช่วงระหว่างนี้เป็นต้นไป

สตาร์ทอัพด้านการขุดคริปโต ‘Minetrix’ ระดมทุนพรีเซลทะลุ 3.1 ล้านดอลลาร์

ในขณะที่นักเทรดกำลังครุ่นคิดกันว่าบิทคอยน์จะไปถึง $40,000 ได้หรือไม่ โปรเจกต์เหรียญคริปโตตัวอื่น ๆ ก็กำลังมาแรงไม่แพ้กัน

Bitcoin Minetrix (BTCMTX) เป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่น่าตื่นเต้นที่กำลังสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดด้วยโมเดล “Stake-to-Mine” ที่เป็นเอกลักษณ์

โมเดลนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับรางวัล BTC เพียง Stake เหรียญ BTCMTX ซึ่งเป็นโทเค็นดั้งเดิมของ Minetrix

ด้วยกระบวนการนี้ทำให้การขุดคริปโตกลับมาเข้าถึงนักลงทุนทั่วไปอีกครั้ง

ต้องขอบคุณการใช้งานที่น่าทึ่งของ Bitcoin Minetrix ยอดพรีเซลของโปรเจกต์จึงได้รับแรงผลักดันมหาศาล โดยระดมทุนไปได้มากกว่า 3.1 ล้านดอลลาร์

นักลงทุนสามารถซื้อโทเค็น BTCMTX ผ่านพรีเซลนี้ได้ในราคาเพียง 0.0114 ดอลลาร์ ก่อนที่เหรียยจะถูกลิสต์เข้าสู่ตลาด ซึ่งมีกำหนดเกิดขึ้นเมื่อการระดมพรีเซลสิ้นสุดลง

สมาชิกใน Telegram ของ Bitcoin Minetrix ต่างรอคอยเหตุการณ์เหล่านี้ โดยเชื่อว่าการเข้าถึงที่เพิ่มขึ้นและสภาพคล่องสามารถช่วยผลักดันราคาของโทเค็นให้สูงขึ้นได้อีกมาก

นอกจากนี้ Michael Wrubel ที่โด่งดังในวงการคริปโต ก็ยังได้สนับสนุน BTCMTX โดยเชื่อว่า มันอาจพร้อมแล้วสำหรับการเพิ่มขึ้นของราคาในช่วงปลายปี

BTCMTX ยังได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับแรกบน CoinSniper ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อติดตามโปรเจกต์เหรียญคริปโตใหม่ ๆ ที่กำลังจะเปิด

ไม่ว่า Bitcoin Minetrix จะสามารถทำตามที่ทุกคนคาดเดาไว้ได้หรือไม่ แต่บอกได้เลยว่าตอนนี้ มันเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดในตลาดคริปโตอย่างไม่ต้องสงสัย

หากใครสนใจสามารถซื้อโทเค็น BTCMTX ผ่านเว็บไซต์ของ Bitcoin Minetrix โดยใช้ ETH, USDT หรือบัตรเครดิต/เดบิต

ซื้อ Bitcoin Minetrix

บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์