<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ธนาคารยักษ์ใหญ่ Standard Chartered คาด Bitcoin จะแตะ $100,000 ได้ภายในสิ้นปี 2024

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ตลาดคริปโตในตอนนี้สิ่งต่าง ๆ กำลังเป็นไปตามครรลองของมัน ตามที่ธนาคาร Standard Chartered Bank ระบุ ซึ่งย้ำการคาดการณ์ในเดือนเมษายนว่า Bitcoin (BTC) จะราคาพุ่งสูงถึง $100,000 ภายในสิ้นปี 2024 

Geoff Kendrick ทีมงานของธนาคารเขียนว่าปัจจัยเร่งตัวถัดไปคือการได้รับการอนุมัติจากหลาย ๆ Spot ETF ในสหรัฐฯ “เราคิดว่า Spot ETF จำนวนหนึ่งจะได้รับการอนุมัติในไตรมาสที่ 1 ปี 2024 สำหรับทั้ง BTC และ (ETH) ซึ่งปูทางสำหรับการลงทุนของนักลงทุนสถาบัน” พวกเขากล่าว ทีมงานยังระบุอีกว่าการ ‘ halving’ ของ Bitcoin ครั้งต่อไป ซึ่งเป็นกลไกในการจำกัดอุปทานและคาดว่าจะเกิดขึ้นในปลายเดือนเมษายน 2024 จะเป็นตัวบ่มเพาะให้ราคาขึ้นได้อีกตัวหนึ่ง

Digital Currency Group (DCG) และ Genesis Global ได้บรรลุแผนการชำระหนี้เพื่อยุติคดีความ ตามการยื่นล้มละลายครั้งใหม่ล่าสุด ในเดือนกันยายน บริษัทผู้ให้กู้ยืม Genesis ได้ยื่นฟ้อง DCG โดยกล่าวหาว่ามีการครอบครองเงินกู้ยืมมากกว่า 620 ล้านดอลลาร์โดยมิชอบ และต้องทำการชำระคืน, จ่ายดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียม 

ท่ามกลางการพิจารณาคดีล้มละลายของ Genesis จนถึงขณะนี้ DCG ได้จ่ายหนี้ไปแล้วประมาณ 227.3 ล้านดอลลาร์ จากหนี้ 620 ล้านดอลลาร์ ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้ DCG ต้องจ่ายเงินอีก 275 ล้านดอลลาร์ให้กับ Genesis โดยแบ่งเป็น 3 งวด บางส่วนเป็นดอลลาร์สหรัฐและ Bitcoin ซึ่งจะครบกำหนดภายในเดือนเมษายน 

ข้อตกลงนี้ยังประกอบไปด้วยการชำระเงินล่วงหน้า 35 ล้านดอลลาร์ และการอายัดสินทรัพย์ 10 ล้านดอลลาร์จากการขาย จากการยื่นฟ้อง DCG ยังตรึงหุ้น Grayscale Trust ไว้เป็นหลักทรัพย์อีกด้วย ข้อตกลงยังคงต้องได้รับการอนุมัติจากเจ้าหนี้

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของฟิลิปปินส์กำลังเตือนผู้ใช้ในประเทศว่าเร็ว ๆ นี้อาจถูกบล็อกการเข้าถึง Binance เนื่องจากการแลกเปลี่ยนนั้นดำเนินการโดยไม่มีใบอนุญาต ในประกาศ 

หน่วยงานกำกับดูแลกล่าวว่า Binance ไม่ได้รับมีการอนุญาตให้ขายหรือเสนอหลักทรัพย์ต่อสาธารณะ หน่วยงานกำกับดูแลยังกล่าวอีกว่า Binance กำลังส่งเสริมการซื้อขาย crypto แก่ชาวฟิลิปปินส์บนโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นความผิดที่อาจทำให้ผู้ก่อการต้องรับผิดทางอาญา Binance เพิ่งตกลงที่จะจ่ายค่าปรับ 4,300 ล้านดอลลาร์ให้กับทางการสหรัฐฯ เพื่อสะสางข้อกล่าวหาที่ไม่สามารถยืนหยัดต่อต้านการฟอกเงินได้อย่างเหมาะสม, ดำเนินธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต และละเมิดกฎหมายคว่ำบาตร

ที่มา : CoinDesk