<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Bitkub เตรียม IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯรอต้อนรับตลาดกระทิงในปี 2024

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ได้เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่าปี 2567 จะเป็นปีที่เกิดปรากฎการณ์ Bitcoin Halving ซึ่งก็คือ การที่รางวัลจากการขุด Bitcoin จะลดลงทุก ๆ 4 ปี โดยจะลดลง “ครึ่งหนึ่ง” ในทุก ๆ 210,000 บล็อก แต่ละบล็อกจะถูกสร้างขึ้นทุก 10 นาที

โดยวันที่คาดการณ์ว่าจะเกิดปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ครั้งต่อไป คือวันที่ 25 เมษายน ปี 2024 (อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้) โดยรางวัลจะลดลงจาก 6.25 เหลือ 3.125 BTC

“ปรากฎการณ์นี้ จะเป็นตัวกระตุ้นให้ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สังเกตได้ว่าตลาดเริ่มตื่นตัวแล้ว จากราคา Bitcoin ที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ ประกอบกับช่วงปีหน้ากำลังจะเข้าสู่ดอกเบี้ยขาลงด้วย”

ทางเว็บเทรด Bitkub ก็ได้เตรียมพร้อมรับมือการ Halving ในปีหน้าเอาไว้แล้ว โดยอาศัยบทเรียนจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งก่อน ทางเว็บเทรดมั่นใจว่าจะมีผู้ให้ความสนใจสมัครเข้าระบบ Bitcoin Exchange มากกว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งปัจจุบัน Bitkub มีพนักงานมากกว่า 800 คน และมีระบบรองรับลูกค้าหน้าใหม่ได้วันละหลายหมื่นคน

“Halving คราวที่แล้ว เรามีพนักงานแค่ 200 คน แต่ต้อง KYC ผู้สมัคร Wallet ของ Bitkub มากกว่า 4 หมื่นคนต่อวัน ระบบก็ไม่พร้อม สุดท้ายก็ล่ม ต้องปิดระบบไป 5 วัน คนบ่นกันทั่วประเทศ​ แต่เราก็สามารถตักตวงการเติบโตเอาไว้ได้”

สำหรับแผนต่อไปของ บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ คือการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของบริษัทฯ เพื่อประกอบการยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไป หรือ IPO ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. คาดว่าจะใช้เวลาราว 1-2 ปีต่อจากนี้จะแล้วเสร็จและจะทำการเปิดให้ซื้อขายหุ้นได้

“ตอนนี้เกณฑ์ต่าง ๆ ของเราผ่านหมดแล้ว ทั้งเกณฑ์กำไร ทุนจดทะเบียน เหลือการไฟลิ่งเท่านั้น โดยปีหน้า Bitkub จะโฟกัส Halving ก่อน จากนั้นจึงจะดำเนินการในขั้นตอนต่อไปของทุกโครงการ”

ปัจจุบัน Bitkub ได้ขยายธุรกิจหลายด้าน โดย Bitcoin Exchange เป็นเพียงหนึ่งในบริษัทเครือ บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ที่ทำธุรกิจซื้อ-ขายคริปโต ส่วนธุรกิจอื่น ๆ ได้แก่ ธุรกิจบล็อกเชน , เมตาเวิร์ส , เอไอ , อะคาเดมี่ และ เวนเจอร์ แคปิตอล 

ทั้งนี้หลังการ Halving ในปีหน้าเชื่อว่า Bitkub จะมีเงินทุนมากเพียงพอสำหรับการเริ่มดำเนินแผนบุกตลาดต่างประเทศ โดยใช้ Bitcoin Exchange นำร่อง เริ่มเข้าไปในประเทศที่มีแนวโน้มทำตลาดได้ และมีความก้าวหน้าด้านกฎหมายเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี่ เริ่มทีละภูมิภาค

ภูมิภาคยุโรปจะเริ่มจาก “ยิบรอลตาร์” ซึ่งเป็นดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักรและใช้กฎหมายเดียวกัน รวมถึงประเทศลักเซมเบิร์ก มีความคืบหน้าด้านกฎหมายคริปโตค่อนข้างมาก ซึ่ง Bitkub จะใช้ที่นี่เป็นประตูสู่ยุโรป 

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกจะเริ่มจาก “ฮ่องกง” เพื่อเป็นประตูสู่ตลาดจีน คาดว่าปีหน้าจะมีเงินทุนจะไหลเข้าจำนวนมาก ประกอบกับ ฮ่องกง กำลังจะออกกฎหมายคริปโตเคอเรนซี่ ส่วนตลาดจีน ไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะยังแบนเรื่องนี้อยู่ คาดว่าจีนน่าจะออก Digital Asset ของตัวเอง

ภูมิภาคอาเซียน อยู่ระหว่างศึกษาข้อกฎหมาย คาดว่าจะเริ่มจาก “กัมพูชา และเวียดนาม” เพราะยังไม่มีคู่แข่ง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาทำความเข้าใจกับแต่ละประเทศ ให้ออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาก่อน

“ปัจจุบัน เราเป็น Exchange ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ล่าสุด ก.ล.ต. เวียดนาม และธนาคารแห่ง สปป.ลาว ส่งเจ้าหน้าที่มาศึกษาข้อมูลและเยี่ยมออฟฟิศของ Bitkub แล้วในปีนี้ เป็นสัญญาณว่า ประเทศเหล่านี้น่าจะมีความคืบหน้าในเรื่องนี้พอสมควร”

ที่มา : Thansettakij