ราคาของ Bitcoin ได้ร่วงลงมา 5% ในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนธันวาคม โดยขึ้นไปอยู่ที่ 42,236 ดอลลาร์ในวันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม หลังจากขึ้นไปที่ระดับสูงสุดในรอบ 19 เดือน ที่ราคา 44,700 ดอลลาร์ในวันที่ 9 ธันวาคม
ในความผันผวนของราคา Bitcoin ทำให้นักลงทุนหลายคนสับสน ในขณะเดียวกัน JPMorgan ธนาคารยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ ก็ได้ออกมาเตือนว่า Bitcoin มีการซื้อมากเกินไปตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน หลังจากที่ราคาของ Bitcoin พุ่งทะลุ 36,000 ดอลลาร์
แต่นี้คือ 8 สัญญาณที่บ่งชี้ว่าตลาดกระทิงของ Bitcoin ยังไม่จบ
1. Bitcoin ใช้เวลามากกว่า 1 ชั่วโมงในการขุดบล็อก
ปัจจุบันมีนักขุดจำนวนมากเข้ามาในเครือข่าย Bitcoin เพื่อช่วยในการประมวลผลธุรกรรม โดยทางโปรโตคอลจะมีการปรับค่า Difficulty เพื่อให้การขุดทำได้ยากขึ้น โดยเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เครือข่าย Bitcoin มีค่า Difficulty พุ่งทำ All-Time High ที่ 68 T
โดยก่อนหน้านี้ได้ทำจุด All-Time High ไว้ที่ 62.46 T เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ซึ่งทำให้นักขุดใช้เวลาถึง 43 นาทีในการสร้างบล็อกใหม่
การปรับค่าจะเกิดขึ้นเฉลี่ยประมาณทุก ๆ 34 วัน โดยจะปรับค่าเพื่อให้การขุดอยู่ที่ประมาณ 10 นาที แต่ที่น่าสนใจก็คือ หลังจากที่ใช้เวลาถึง 43 นาทีในการสร้างบล็อกที่ 815,689 เครือข่าย Bitcoin ได้ใช้เวลาถึง 66 นาทีในการสร้างบล็อกที่ 815,690 ซึ่งค่า
2. กองทุน Hedge Fund ระดับโลกกำลังมองหา Bitcoin ETF
บริษัท BlackRock ซึ่งเป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์ระดับโลกซึ่งมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารถึง 9.42 ล้านล้านดอลลาร์ได้ยื่นขออนุมัติ Bitcoin ETF
โดยเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา นาย Larry Link CEO ของบริษัท BlackRock กล่าวว่าจะไม่ทำการเสนอกองทุน ETF ของสกุลเงินดิจิทัลจนกว่าทุกอย่างจะถูกกฎหมาย
แต่ในการยื่นขอเปิดกองทุน Bitcoin ETF กับทางสำนักงาน SEC ล่าสุด บริษัท BlackRock กล่าวว่าพื้นฐานของอุตสาหกรรมยังคงไม่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างสมบูรณ์ แต่ผลตอบแทนที่ได้มันคุ้มค่าที่เสี่ยงเสนอ Bitcoin ETF ให้กับลูกค้า
3. 70% ของ Bitcoin ไม่ได้เคลื่อนไหวมานานกว่า 1 ปี
ผู้ถือ Bitcoin ส่วนใหญ่ไม่ได้ทำการเทขายสินทรัพย์ของตน แม้ว่า Bitcoin จะพุ่งอย่างรุนแรงในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา
โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม Bitcoin 83% ที่หมุนเวียนอยู่ในระบบกำลังมีกำไร แต่สินทรัพย์ส่วนใหญ่ก็ยังคงไม่มีการเคลื่อนไหว
โดยข้อมูลระบุว่า 70% ของอุปทาน Bitcoin หรือคิดเป็น 13.65 ล้าน BTC ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าตลาดกระทองจะไม่ได้จบลงในเร็ว ๆ นี้
4. ตลาดอนุพันธ์ CME มีการเปิด Open Interest มากกว่าบนกระดานเทรด Binance
จำนวน Open Interest ในกลุ่ม CME หรือ Chicago Mercantile Exchange ซึ่งเป็นตลาดอนุพันธ์ชั้นนำของโลกที่รับการควบคุมแซงหน้ากระดานเทรด Binance ซึ่งเป็นกระดานเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก
นี้เป็นครั้งแรกที่ Bitcoin Futures ของ CME แซงหน้า Binance นับตั้งแต่ตลาดกระทิงในปี 2021 โดยทาง CME มีมูลค่าอยู่ที่ 4.56 พันล้านดอลลาร์หรือประมาณ 109,000 BTC ในขณะที่ Binance อยู่ที่ 4.15 พันล้านดอลลาร์หรือประมาณ 99,000 BTC ซึ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความสนใจของนักลงทุนสถาบันที่เพิ่มขึ้นในตลาดที่รับการควบคุม
5. Bitcoin Futures ส่งสัญญาณขาขึ้น
เมื่อพูดถึง Bitcoin Futures ตลาด CME สำหรับอนุพันธ์เหล่านี้ก็กำลังส่งสัญญาณขาขึ้น ซึ่งเป็นการเกิดภาวะ Contango ในตลาดฟิวเจอร์
การเกิด Contango ในตลาดฟิวเจอร์คือ ภาวะที่ราคาของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เทรดกนในตลาดอยู่สูงกว่าราคาสินค้าอ้างอิงที่ ณ วันที่ส่งมอบ ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างราคาขึ้นมา ซึ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นในตลาดกระทิงที่มากขึเน
6. วาฬกำลังซื้อ Bitcoin
จำนวน Address ของวาฬ BItcoin หรือ Address ที่มี Bitcoin อยู่ระหว่าง 1,000 – 10,000 BTC เพิ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม โดยข้อมูลจาก CoinGecko ณะบุว่า Address ของวาฬได้เพิ่มขึ้นมา 3.8% ในวันที่ 23 ตุลาคม
ภายในเดือนพฤศจิกายนหลังจาก Bitcoin พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงจากข่าว Bitcoin ETF มีธุรกรรมที่เกิดขึ้นโดยวาฬหรือธุรกรรมที่มีมูลตั้งแต่ 1 แสนถึง 1 ล้านดอลลาร์เกิดขึ้นถึง 24% ของ Volume ซื้อขาย
7. กราฟ Bitcoin ทำรูปแบบเดียวกันกับ 4 ปีก่อนหน้านั้น
นักวิเคราะห์กราฟ Bitcoin หลายรายได้ออกมาทวีตให้เห็นถึงแพทเทิร์นของกราฟ Bitcoin ที่คล้ายกับ 4 ปีก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ยังมีนักวิเคราะห์รายหนึ่งที่แสดงให้ถึงแนวโน้มของราคา Bitcoin ที่พุ่งในอีกไม่ช้า
นาย Gert van Legen นักวิเคราะห์กราฟได้ออกมาเน้นย้ำถึงกราฟราคา Bitcoin ที่คล้ายกับรอบก่อนหน้านี้
8. นักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์ราคา Bitcoin จะไปได้ไกล
แม้ว่าเราจะไม่รู้อย่างแน่ชัดว่าราคาของ Bitcoin ไปถึงเท่าไหร่ แต่นักวิเคราะห์จำนวนมาก็เริ่มคาดการณ์แนวโน้มของราคา Bitcoin ที่จะขึ้ยอ่างรุนแรงในอนาคต
หนึ่งในนักวิเคราะห์ชื่อดังได้คาดการณ์ว่า Bitcoin จะสามารถไปถึง 47,000 ดอลลาร์ได้ในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม
นอกจากนี้ยังมีธนาคารของอังกฤษที่คาดการณ์ว่า Bitcoin จะไปถึง 100,000 ดอลลาร์ในปีหน้า
ในขณะเดียวกัน นาย Adam Back CEO ของบริษัท Blockstream ก็คาดการณ์ว่า Bitcoin จะพุ่งไปถึง 700,000 ดอลลาร์ในปี 2024 หรือ 2025
Source: CryptoPotato