<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

10 ปีรอคอยสิ้นสุด! SEC ไฟเขียว Bitcoin Spot ETF 11 ตัว ปูทางคริปโตเคอเรนซีสู่กระแสหลัก

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เป็นเวลานับ 10 ปีแล้วตั้งแต่ที่ฝาแฝด Winklevoss พยายามยื่นขอจัดตั้ง Bitcoin Spot ETF จนกระทั่งล่าสุดในวันที่ 11 มกราคม 2024 ก.ล.ต. สหรัฐฯ ก็ได้ทำการอนุมัติ Bitcoin Spot ETF จำนวนทั้งสิ้น 11 รายการจากตัวแทนเหล่านี้

  • BlackRock
  • Ark Invest
  • Grayscale
  • VanEck
  • Bitwise
  • Fidelity
  • Hashdex
  • WisdomTree
  • Invesco Galaxy
  • Franklin Templeton
  • Valkyrie

Chicago Board Options Exchange (Cboe) กล่าวว่าจะเริ่มเปิดให้มีการซื้อขาย Bitcon Spot ETF บนตลาดหุ้นโดยเร็วที่สุดในวันพฤหัสนี้ (อีกประมาณ 12 ชั่วโมงนับจากเวลาไทย) ซึ่งบนเว็บไซต์ของ Cboe นั้นในขณะนี้มี Bitcoin Spot ETF จำนวน 6 รายการที่อนุมัติให้ทำการซื้อขายแล้ว ได้แก่ Ark21 (ARKB) , Fidelity (FBTC), Franklin Templeton (EZBC), Invesco (BTCO), VanEck (HODL) และ WisdomTree (BTCW).

ในการขอยื่นอนุมัติครั้งนี้มีตัวแทนขอยื่นจำนวน 14 บริษัท โดย 3 บริษัทที่ไม่ได้มีการอนุมัติให้จำหน่าย Bitcoin Spot ETF ประกอบไปด้วย 7RCC,Pando และ Global X

ทั้งนี้การเปิดให้เทรด Bitcoin Spot ETF จะเป็น ซื้อและเก็บ Bitcoin ไว้จริง ๆ เหมือนทองคำ ท่ามกลางการลงทุนของกองทุน และการซื้อ  Bitcoin Spot ETF จะช่วยลด Bitcoin ที่หมุนเวียนในตลาด (เหมือนเอาออกจากตลาดไปชั่วขณะ) potentially ส่งผลให้ราคา Bitcoin เพิ่มสูงขึ้น 

การอนุมัติ Bitcoin Spot ETF จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้ามาลงทุนใน Bitcoin ได้ง่ายขึ้น และทำให้สินทรัพย์คริปโตเป็นที่ยอมรับมากขึ้นจากสถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก ซึ่งในตอนนี้ สหรัฐฯอเมริกาเป็นประเทศลำดับที่ 9 ที่ให้การอนุมัติ  Bitcoin ETF โดยประเทศที่ให้การยอมรับ Bitcoin spot ETF ได้แก่ Canada, Germany, Brazil, Australia, Jersey, Switzerland, Liechtenstein, and Guernsey.

VanEck หนึ่งในผู้สมัครยื่นขอจัดตั้ง ETF คาดการณ์ว่า จะมีเงินไหลเข้ามามากถึง 2.4 พันล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 ขณะที่ Bitwise ทำนายว่าภายใน 5 ปี Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ จะมีมูลค่ามากถึง 72 พันล้านดอลลาร์

ผู้คนต่างดีใจกันเป็นอย่างยิ่งสำหรับข่าวดีในเช้าวันนี้ก่อเป็นความหวังให้กับการ ETF เหรียญตัวถัดไปอย่าง Ethereum เหรียญคริปโตอันดับที่สองของตลาด ซึ่งอนาคตจะเป็นอย่างไรคงต้องติดตามกันต่อไป

ที่มา : Crypto Briefing