Michael Saylor ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท และประธานของ MicroStrategy ล่าสุดได้มีการเคลื่อนไหวอันน่าตกตะลึงครั้งใหญ่ โดยได้ทำการ เทขายหุ้นบริษัทจำนวนมาก ก่อนที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และ ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) จะทำการอนุมัติ Bitcoin Spot ETF
Saylor ได้ขายหุ้น MicroStrategy จำนวน 3,882 – 5,000 หุ้น ในระหว่างวันที่ 2 มกราคม – วันที่ 10 มกราคม ตรงกับวันที่ SEC มีการประกาศการอนุมัติ Bitcoin Spot ETFs โดยการเคลื่อนไหวครั้งนี้ทำให้ Saylor กอบโกยรายได้เข้าพอร์ตไปกว่า 20 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นการขายหุ้นครั้งแรกในรอบ 12 ปีของ Saylor อ้างอิงตามการรายงานของ Bloomberg
โฆษกของ MicroStrategy ชี้แจงกับสื่อว่าการขายหุ้นของ Michael Saylor ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่เตรียมไว้ล่วงหน้า ซึ่งบริษัทเคยเปิดเผยข้อมูลไว้อย่างชัดเจนในเอกสารทางการเมื่อปีที่แล้ว และไม่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติ ETF
ในแผนงาน ระบุไว้ถึงการขายหุ้นจำนวนสูงสุดถึง 5,000 หุ้นในทุก ๆ วันตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม ไปจนถึงวันที่ 26 เมษายน ด้วยเป้าหมายที่จะขายหุ้นให้ได้ถึง 400,000 หุ้นตลอดช่วงระยะเวลาของแผนงาน
การเคลื่อนไหวของ Saylor มาพร้อมกับราคาหุ้นของ MicroStrategy ที่ร่วงลดลง 23% นับตั้งแต่ต้นปี ซึ่งการลดลงนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความกังวลว่าการเปิดตัว Bitcoin Spot ETF อาจทำให้หุ้นของบริษัทน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนน้อยลง เพราะตัวของบริษัทเองถูกมองให้เป็นตัวแทนของ Bitcoin มานานแล้ว เนื่องจากการถือครอง Bitcoin จำนวนมากไว้ในงบดุล
MicroStrategy ได้เริ่มการลงทุนใน Bitcoin นับตั้งแต่ปี 2020 โดยอ้างถึงความจำเป็นในการกระจายความเสี่ยงและลดความเสี่ยงของภาวะเงินเฟ้อจากการถือครองเงินสด อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลเข้าสู่ช่วงขาลงก่อนหน้านี้ บริษัทต้องแบกรับภาระและต้องตัดค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก เนื่องจากการถือครอง Bitcoin
ปัจจุบัน Bitcoin ทั้งหมดที่ MicroStrategy ถือครองอยู่มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 8.3 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 40% ของผลกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้น ในขณะที่ราคาของ Bitcoin ปัจจุบันนั้นซื้อขายกันอยู่ที่ 42,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ