Arthur Hayes ผู้ก่อตั้ง BitMEX ออกมาเปิดเผยว่า เขาได้ซื้อสัญญา put option ของ Bitcoin (BTC) ที่ราคา strike price 35,000 ดอลลาร์ ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 29 มีนาคม
ผู้ก่อตั้ง BitMEX กล่าวบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ว่า สกุลเงินดิจิทัลเบอร์หนึ่งอย่าง Bitcoin ราคามีแนวโน้มที่จะลดลง และคาดว่าราคาจะลดลงต่ำกว่า 40,000 ดอลลาร์ เนื่องจากตลาดเตรียมพร้อมสำหรับการประกาศของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ในช่วงปลายเดือนนี้ ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับการประมูลพันธบัตรกระทรวงการคลังและการสร้างหนี้ก้อนใหม่
“ราคา BTC มีแนวโน้มที่จะลดลง ผมคิดว่าราคาจะทะลุ 40,000 ดอลลาร์ได้ ผมซื้อสัญญา put option โดย strike price อยู่ที่ 35,000 ดอลลาร์ จะหมดอายุในวันที่ 29 มีนาคม ผมคิดว่าราคาจะร่วงลงก่อนการประกาศคืนเงินประจำไตรมาสของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ในวันที่ 31 มกราคม Janet Yellen กำลังจะพูดอะไร?”
Arthur Hayes กล่าวว่า BTC ไม่สัมพันธ์กับดัชนี S&P; 500 (SPX) อีกต่อไป โดยแนะนำว่า เหตุการณ์สำคัญในช่วงปลายเดือนนี้ อาจจบลงด้วยขาลงของ Bitcoin
“ทำไม SPX กับ BTC ถึงไม่ขึ้นคู่กันอีก หลังจาก Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ เปิดตัว?
ทั้งคู่ชอบสภาพคล่อง [liquidity] ที่สูง ใครกันแน่ที่มองอนาคตถูก?
BTC กำลังบอกเราว่า สภาพคล่องกำลังจะสะดุดลงในอนาคต เนื่องจากการประกาศคืนเงินประจำไตรมาสของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ในวันที่ 31 มกราคม”
Arthur Hayes คาดการณ์ว่า การสิ้นสุดของโปรเจกต์ Bank Term Funding Program (BTFP) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 12 มีนาคม อาจส่งผลให้เกิดการปรับฐานลงอย่างรุนแรงของ Bitcoin และสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม Arthur Hayes มองว่า การปรับฐานของตลาดนี้ อาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ผ่อนคลายนโยบายการเงิน ส่งผลให้ Bitcoin สามารถฟื้นตัวกลับคืนมาได้
“BTFP จะสิ้นสุดในวันที่ 12 มีนาคม และการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของ Fed จะมีการประกาศในวันที่ 20 มีนาคม
ช่วงหกวันระหว่างการตัดสินใจสำคัญของสองเหตุการณ์สำคัญนี้ หากการคาดการณ์ของผมถูกต้อง ตลาดจะล่ม ธนาคารบางแห่งล้มละลาย ภายในช่วงเวลานั้น ส่งผลให้ Fed ต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยและประกาศให้กลับมาทำโปรเจกต์ BTFP อีกครั้ง เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบ
ราคา Bitcoin จะลดลงอย่างรวดเร็ว ไปพร้อมกับตลาดการเงินโดยรวมในช่วงแรก แต่จะดีดตัวขึ้นก่อนการประชุม Fed เหตุผลที่คาดการณ์เช่นนี้เพราะ Bitcoin เป็นสกุลเงินสำรองตัวเดียวที่เป็นกลาง ซึ่งไม่อยู่ในความรับผิดของระบบธนาคารและมีการซื้อขายทั่วโลก
ที่มา : The daily hodl