เป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์แล้วที่ Bitcoin Spot ETF ได้รับการอนุญาตให้เริ่มการซื้อขาย ผ่านตัวแทนทั้ง 11 ราย ทว่าล่าสุดได้มีการเปิดเผยตัวเลขจำนวน Bitcoin ที่ตัวแทนเหล่าบางส่วนถืออยู่ในปัจจุบัน เรียงตามลำดับจากน้อยไปมากได้ดังนี้
ชื่อบริษัท | จำนวน Bitcoin ที่ถือครอง (BTC) | มูลค่าทั้งหมดของ Bitcoin ที่ถือครอง (USD) | มูลค่าของ Bitcoin ต่อ 1 BTC ขณะที่ซื้อ (USD) |
Franklin Templeton | 1,276 | $48,574,389.01 | $38,050.01 |
Bitwise | 11,188 | $445,738,100.59 | $39,862.53 |
Fidelity | 31,976 | $1,329,331,948.7 | $41,614.12 |
BlackRock | 33,430 | $1,302,220,918.76 | $38,868.96 |
Grayscale | 558,280 | $28,386,046,671.59 | $50,847.88 |
จะเห็นได้ว่าทาง Grayscale นั้นถือ Bitcoin อยู่เป็นจำนวนมากที่สุดทิ้งห่าง BlackRock เกินสิบเท่า เป็นตัวเลขที่น่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก ซึ่งชุมชนคริปโตต่าง ๆ ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงความกังวลที่มีต่อจำนวน Bitcoin ที่ Grayscale ครอบครองจะส่งผลกระทบตลาด
ข้อมูลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาชี้ว่า กองทุน Bitcoin ETFs ทั้ง 10 รายมีเงินลงทุนสุทธิไหลเข้ารวมแล้วกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวรวมถึงการไหลออกของเงินลงทุนจากกองทุน Grayscale’s Bitcoin Trust (GBTC) ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แสดงถึงการที่นักลงทุนบางส่วนเทขายหุ้น GBTC ที่ถือมานาน
โดยตลอดปีที่ผ่านมา Bitcoin ได้โตขึ้นสูงถึง 160% ทำผลงานได้ดีกว่าสินทรัพย์แบบดังเดิมตัวอื่น ๆ ทั้งหมด ซึ่งยิ่ง ETF ได้รับการอนุมัติมาแล้วนั้นยิ่งเพิ่มโอกาสที่คริปโตเคอร์เรนซีจะเป็นที่ยอมรับจากสถาบันการเงิน และนักลงทุนทั่วโลก
อย่างไรก็ตามในช่วงไม่กี่วันก่อนราคาของ Bitcoin ได้มีการร่วงหล่นอย่างรุนแรงจนทะลุระดับราคา 40,000 ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากการเทขาย Bitcoin ของ Grayscale ในกรณีของ FTX ซึ่งในขณะที่เขียนบนความราคา Bitcoin มีการซื้อขายกันอยู่ที่ 39,868.11 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.34% ในรอบ 24 ชั่วโมง อ้างอิงข้อมูลจาก Coinmarketcap
ที่มา : Bitcoin Sistemi