การมาของบอทเทรดตัวใหม่อย่าง Bitbot ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับโลกการลงทุน ซึ่งเปิดตัวไปแล้วเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา และระดมทุนไปได้แล้วถึง 3.49 แสนดอลลาร์ ในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ การเติบโตอย่างรวดเร็วนี้เห็นได้จากผู้ติดตามบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ที่สูงถึง 90,000 คน นี่ทำให้ Bitbot กลายเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในวงการ Fintech
ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่า ทำไมบอทเทรดตัวนี้ถึงเป็นมากกว่าเครื่องมือ แต่มันคือการปฏิวัติ โดยให้คำสัญญาที่จะสร้างยุคใหม่ให้กับนักลงทุน
Altcoins จะกลับมาอีกครั้ง หลังการ Halving ครั้งที่ 4 ของ BTC
สองเหตุการณ์สำคัญที่กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนคือ การ Halving ของ Bitcoin ที่กำลังจะมาถึง และการอนุมัติ Spot ETF ของ Ethereum รวมถึง Bitcoin ETF ที่พึ่งได้รับการอนุมัติ
การอนุมัติ ETH ETF ที่ทุกคนเฝ้ารอ แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นตัวปั๊มราคาให้กับ ETH แล้ว ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงช่วยเพิ่มราคาของ Altcoins อย่าง Abritrum และ Polygon, จากข้อมูลราคาล่าสุดบนเว็บไซต์ CoinMarketCap
นี่คือเหตุผลว่าทำไม Bitbot อาจสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนได้อย่างมหาศาล
การ Halving ของ Bitcoin ที่ทุกคนเฝ้ารอเป็นเสมือนการเตรียมพร้อมสำหรับการมาของตลาดขาขึ้นอย่างแท้จริง และเป็นการเพิ่มความนิยมให้กับแอปเทรดรายย่อย โดยวงการที่กำลังเป็นที่สนใจอย่างมากในตอนนี้ก็คือ แพลตฟอร์มการเทรดบน Telegram
Bitbot เป็นแพลตฟอร์มที่ครบครันและเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน มันจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำการเทรดในตลาดขาขึ้นได้อย่างมั่นใจ ซึ่งเปิดตัวได้ในเวลาที่เหมาะสมและมีฟีเจอร์ที่เป็นนวัตกรรม ทำให้มันมีโอกาสกลายมาเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนชั้นนำ และผู้ที่ลงทุนก็มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ก้อนโต
Bitbot? คืออะไร (Bitbot และ Telegram – ส่วนผสมแห่งชัยชนะ)
Telegram มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับบอทเทรดคริปโตเป็นอย่างยิ่ง หลาย ๆ ชุมชนคริปโตมีการใช้ Telegram เป็นหลัก และผู้ใช้ก็สามารถตั้งค่า จัดการ และเฝ้าดูการเทรดได้ในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย ซึ่งพวกเขาใช้สำหรับการพูดคุยเกี่ยวกับการเทรดและกลยุทธ์กับเพื่อน ๆ โดยผู้ใช้สามารถทำการเทรดได้ด้วยการกดไม่กี่ครั้ง
Bitbot สร้างหน้าจอการใช้งานที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งานมือถือบน Telegram ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเทรดต้องประสบพบเจอเกี่ยวกับการเข้าถึงเว็บไซต์กระดานเทรดแบบ Decentralized จากอุปกรณ์มือถือ นอกจากนั้น กระบวนการตั้งค่าและการเข้าร่วมของ Bitbot ก็สามารถทำได้อย่างลื่นไหล ทำให้เป็นแพลตฟอร์มที่มีความเป็นมิตรกับผู้ใช้ ผู้ใช้สามารถตั้งค่ากระเป๋าเงินฟรีได้ถึง 3 กระเป๋าในการกดเพียงครั้งเดียว
สิ่งที่ทำให้ Bitbot แตกต่างอย่างแท้จริงในวงการบอทเทรดบน Telegram คือ ความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะเน้นในด้านของความปลอดภัย และการทำให้ผู้ใช้แน่ใจได้ว่า ตัวเองมีสิทธิ์ควบคุมเหนือสินทรัพย์ของตนเองอย่างเต็มรูปแบบด้วยการใช้กระเป๋าเงินแบบ Non-custodial, ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอดีตทีมนักเทรดของ Wall Street, Bitbot มีการรักษาความปลอดภัยระดับสถาบัน ด้วยการใช้เทคโนโลยีของ Knightsafe
สิ่งนี้ช่วยให้แน่ใจได้ว่า ผู้ใช้จะได้รับการป้องกันที่ยอดเยี่ยมและการใช้งานร่วมกันอย่างลื่นไหลกับ Cold wallet ยอดนิยม ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูแลและจัดการสินทรัพย์ของตัวเองได้อย่างอิสระ โปรเจกต์คู่แข่งหลาย ๆ โปรเจกต์ อย่างเช่น Unibot เพิ่งเกิดการแฮ็กขึ้น และ Banana Gun มูลค่าของโทเค็นก็ลดลงถึง 99% ในวันเดียวหลังจากมีการเปิดเผยว่า เกิดการ Rug pull ถือ Private keys และสินทรัพย์ของผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้ของโปรเจกต์เหล่านั้นเสี่ยงต่อการโดนโจมตีทางไซเบอร์ เนื่องจากผู้ใช้ได้ยกสิทธิ์การควบคุมสินทรัพย์ทั้งหมด เมื่อผู้ใช้ทำการใช้งานแพลตฟอร์มเหล่านั้น
แนวทางของ Bitbot นั้นจะมาเปลี่ยนวงการ โดยทำให้แน่ใจว่า เมื่อผู้ใช้ทำการใช้กระเป๋าเงินแบบ Non-custodial สินทรัพย์จะถูกโอนย้ายไปเมื่อการเทรดสำเร็จเท่านั้น ซึ่งจะทำให้การลงทุนในตลาดคริปโตมีความปลอดภัย และมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
โทเค็น BITBOT มีไว้ เพื่อทำอะไร?
หัวใจหลักสำหรับความน่าสนใจของ BITBOT คือ นวัตกรรมโมเดลการแชร์รายได้ โมเดลนี้ถูกออกแบบมาด้วยเป้าหมายที่มุ่งหวังจะมอบรางวัลให้กับผู้ถือ BITBOT โดยให้ผู้ถือเติบโตไปพร้อมกับแพลตฟอร์ม ซึ่งช่วยให้ Bitbot เติบโตไปได้พร้อมกับนักลงทุน
การถือโทเค็น BITBOT ยังช่วยให้นักลงทุนได้สิทธิพิเศษในการเข้าถึงโอกาส เช่นสิทธิ์การเข้าถึงการ Presale ก่อนใคร รวมถึงสิทธิพิเศษต่าง ๆ และการ Airdrops นอกจากนั้นยังมีแผนที่จะทำการแจกจ่ายรายได้ 50% จากค่าธรรมเนียมธุรกรรมให้กับผู้ถือโทเค็น BITBOT ทุกคน
การคาดการณ์ราคา Bitbot
ราคาเริ่มต้นอยู่ที่เพียง 0.0100 ดอลลาร์ แนวโน้มราคาของโทเค็น BITBOT นั้นมีโอกาสเติบโตได้ไกลเป็นอย่างมาก โดยมูลค่าจะขึ้นไปถึง 0.0200 ดอลลาร์ เมื่อการ Presale ทั้ง 15 เฟสจบลง
ความนิยมบอทเทรดบน Telegram ที่กำลังขยายตัวนั้น ยิ่งเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับการคาดการณ์เชิงบวกนี้ ตลาดบอทเหล่านี้เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมในปัจจุบันสูงถึง 0.5 พันล้านดอลลาร์ ถึงแม้จะเป็นวงการที่ยังค่อนข้างใหม่และมีผู้เล่นที่จริงจังเพียงไม่กี่ราย ซึ่งแสดงถึงสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เป็นการเติบโตแบบเลข 2 หลัก โดยเฉพาะสำหรับผู้เล่นใหม่มาแรงอย่าง Bitbot
ประสบการณ์จากคู่แข่งของ Bitbot อย่าง Unibot และ Banana Gun แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของตลาดที่กำลังต้องการตัวเลือกที่มีความปลอดภัยและนวัตกรรม ซึ่ง Unibot ทำให้นักลงทุนสามารถ Presale ทำเงิน เพิ่มขึ้นได้ถึง 200x จากรายงานของ CoinDesk ถึงแม้จะมีปัญหาด้านความปลอดภัยที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่ Unibot ก็ยังมีการซื้อขายอยู่ที่ราคาประมาณ สูงจากราคาต่ำสุด 350% ในขณะที่เขียนบทความนี้
สำหรับปัจจัยที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับเหรียญ Altcoins อย่าง Bitbot ดังที่กล่าวไปข้างต้นเกี่ยวกับการ ETH ETF และมีโอกาสสูงที่ฤดูกาล Altcoin จะมาถึง ซึ่งเป็นผลมาจากการ Halving ของ Bitcoin และตลาดขาขึ้นที่กำลังจะตามมา รวมถึง Coinbase มีโอกาสสูงที่ชนะคดีความกับ SEC ซึ่งถือเป็นข่าวดีเช่นกัน ด้วยปัจจัยที่สำคัญเหล่านี้ที่ดูเหมือนจะเตรียมพร้อมไว้แล้ว การที่ Bitbot จะทำราคาเพิ่มขึ้น 1000% หรือแม้แต่ 10,000% ก็ดูจะมีความเป็นไปได้สูง
Bitbot ดาวรุ่งพุ่งแรง: ตั๋วทองคำสู่โลกแห่งการเทรดแห่งอนาคต
Bitbot มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนได้อย่างมหาศาล รวมถึงยังมีความปลอดภัยและนวัตกรรม ทำให้มันกลายเป็นโอกาสที่คุณไม่ควรจะพลาดเป็นอย่างยิ่ง ถือเป็นโอกาสที่หาได้ยาก สำหรับนักลงทุนที่จะได้เข้าร่วมโปรเจกต์ในช่วงเริ่มต้น และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ก้อนโต เมื่อพิจารณาจากประสิทธิภาพของบอทเทรด Telegram ที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงแม้จะมีปัญหาด้านความปลอดภัย มันจึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่โทเค็น Bitbot จะสามารถทำราคาเพิ่มขึ้น 100x ในปี 2024
เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมและซื้อโทเค็น BITBOT, ไปยังเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์