การเติบโตอย่างรวดเร็วของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในช่วงนี้ และกระแสความตื่นเต้นรอบ ๆ อุตสาหกรรมที่เพิ่งเกิดใหม่นี้ กลายเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญให้กับบริษัทผู้ผลิตชิป Nvidia และเหล่าผู้ถือหุ้น ซึ่งบริษัทมีรายได้และกำไรที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จนี้ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทพุ่งสูงขึ้น จนปัจจุบันมีมูลค่าตลาดมากกว่า Bitcoin ถึงสองเท่า
ยักษ์ใหญ่ด้าน semiconductor ของอเมริกาอย่าง Nvidia กลายเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลประโยชน์มหาศาลจากกระแสความสนใจในทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ราคาหุ้นและมูลค่าตลาดของ Nvidia พุ่งแตะจุดสูงสุดตลอดกาล
ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ สำนักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจมหภาคอย่าง Kobeissi Letter รายงานว่า มูลค่าตลาดของ Nvidia ณ สิ้นเดือนตุลาคม อยู่ที่ประมาณ 9.5 แสนล้านดอลลาร์
นับตั้งแต่เดือนตุลาคม มูลค่าตลาดของ Nvidia เพิ่มขึ้นถึง 79% และแตะจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลที่ระดับ 1.7 ล้านล้านดอลลาร์
“พูดอีกอย่างก็คือ Nvidia มีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น 7.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใน 70 วันทำการ”
คิดเป็นการเพิ่มขึ้นของมูลค่าตลาดเฉลี่ยวันละ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็นเวลา 70 วันทำการติดต่อกัน หรือเทียบเท่ากับมูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัล Tron (TRX) ที่เพิ่มขึ้นทุกวันในช่วงเวลานั้น
มูลค่าตลาดของ Nvidia ยังมากกว่ามูลค่าตลาดของ Ethereum ถึง 6 เท่า และมากกว่ามูลค่าตลาดของ Bitcoin ถึง 2 เท่า
Nvidia ใกล้แซงหน้า Amazon ขึ้นเป็นบริษัทมหาชนที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก โดยขาดอยู่เพียง 3% เท่านั้น เมื่อ 2 ปีที่แล้ว Nvidia เกือบจะติดอยู่ใน 20 อันดับบริษัทมหาชนที่ใหญ่ที่สุดของโลก
“ปัจจุบัน Nvidia ครองส่วนแบ่งตลาดชิป AI ทั่วโลกถึง 70-90% เทคโนโลยี AI ช่วยผลักดันให้ Nvidia กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดตลอดกาล”
นอกจากนี้ ราคาหุ้นของบริษัทยังพุ่งสูงแตะ 700 ดอลลาร์ เป็นสถิติสูงสุดใหม่ในช่วงหลังเวลาทำการซื้อขายเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ราคาหุ้น NVDA เพิ่มขึ้น 6.2% นับตั้งแต่เริ่มต้นการซื้อขายในสัปดาห์นี้
ชิปที่ทรงพลังยิ่งขึ้น
ชิปประสิทธิภาพสูงของ Nvidia มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อแผนการขยายตัวของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน cloud-computing เช่น Microsoft และ Alphabet นอกเหนือจาก Meta และ Amazon
นอกจากนี้แล้ว บริษัทยังเตรียมที่จะเพิ่มชิปประสิทธิภาพสูงอีกตัวหนึ่ง นั่นคือ B100 Blackwell รุ่นใหม่ ลงในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เน้น AI ในช่วงปลายปีนี้ด้วย
Toshiya Hari นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs ตั้งเป้าหมายราคาหุ้นที่ 800 ดอลลาร์ โดยอ้างถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องและระบุว่า:
“เราไม่คาดการณ์ว่า รายได้จากศูนย์ข้อมูลจะลดลง [ในปีนี้] อีกต่อไป แต่คาดการณ์การเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึง [ครึ่งปีแรกของปีหน้า] เนื่องจากผู้ให้บริการคลาวด์ขนาดใหญ่ยังคงลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (generative AI)”
นอกจากนี้ เขายังกล่าวเสริมว่า Nvidia จะยังคงเป็นมาตรฐานทองคำของอุตสาหกรรมในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากการเติบโตของนวัตกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ AI
ที่มา : be (in) crypto