สำหรับมือเก๋าในวงการคริปโตเคอร์เรนซีนั้นคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า ในโลกของคริปโตจะมีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า “วัฏจักร Bitcoin” ที่เกิดขึ้นทุก ๆ 4 ปี ซึ่งมาพร้อมกับเหตุการณ์ “Bitcoin Halving” ส่งผลให้ในช่วงระยะเวลานั้นสินทรัพย์คริปโตเคอร์เรนซีจะมีการปรับตัวสูงขึ้น
โดยมือใหม่ที่ได้อ่านบทความนี้อาจสงสัยว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้ตลาดคริปโต ได้เฟื่องฟูอย่างมาก ทั้ง Bitcoin ได้รับการอนุมัติ Spot ETF ที่ซึ่ง Ethereuem ก็อาจตามหลังมาติด ๆ ถ้าหากมีความคิดที่จะเข้ามาก้าวเข้าในวงการนี้จะยังทันอยู่ไหม ? บทความนี้จะช่วยทำให้ทุกท่านตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น
ธรรมชาติของ Cycle
ก่อนอื่นเลยเราต้องรู้จักธรรมชาติของ Bitcoin และ คริปโตเคอร์เรนซีก่อน ซึ่งจากที่ได้เกริ่นนำไปด้านบนนั้น ภาวะตลาดคริปโตนั้นจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ ตลาดขาขึ้น (Bull run) จะเป็นช่วงที่ราคาคริปโตพุ่งขึ้นสูงเป็นอย่างมาก ซึ่งมักจะเกิดหลังจากเหตุการณ์ Halving ที่จำนวนเหรียญ Bitcoin ที่ขุดได้ถูกลดจำนวนลงครึ่งหนึ่ง โดยตลาดขาขึ้นนั้นจะมีระยะเวลาอยู่ประมาณ 1 – 1 ปีครึ่งหลังการณ์ Halving ซึ่งปี 2024 นี้ก็เป็นปีที่มีการคาดการณ์กันว่าจะเกิด Bull run ขึ้นตามกลไกของระบบ
ถัดมาคือ ตลาดขาลง (Market Crash) เมื่อมีขึ้นก็ต้องมีลง หลังจากตลาดขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในช่วง Bullrun ก็จะมีการร่วงหล่นลงมา หรือบางรายอาจจะเรียกสภาวะนี้ว่า Crypto Winter ซึ่งจะกินระยะเวลา 1 ปีเป็นอย่างต่ำหลังสิ้นสุดช่วง Bullrun จากนั้นตลาดจะเข้าสู่ภาวะตลาดไซด์เวย์ หรือตลาดแกว่งขึ้น ที่ราคาจะค่อย ๆ มีการฟื้นตัวปรับขึ้นมาเตรียมรอรับการ Bull run รอบถัดไปซึ่งช่วงนี้ก็จะกินระยะเวลาประมาณ 1 ปีกว่า ๆ เช่นกัน
ซื้อ Bitcoin ตอนนี้จะทันไหม ?
สำหรับคำถามสำคัญที่หลายท่านอยากทราบ เราสามารถตอบได้ว่าหากต้องการทำกำไรมหาศาลหลายเด้ง ช่วงเวลานี้อาจจะสายเกินไปแล้วสำหรับการทำกำไรในระดับนั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถซื้อได้เพียงแต่ผลกำไรที่ได้อาจไม่ได้มากเท่า เนื่องจากตอนนี้ Bitcoin นั้นมีการซื้อขายกันในระดับราคาที่สูงมากราว 50,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาเกินสองเท่า หากเทียบกับราคาของช่วงเวลานี้เมื่อปีที่ผ่านมา
แม้ราคาจะสูงแต่ไม่ได่หมายความว่าจะหมดหวังไปสักทีเดียว เนื่องจากระดับราคานี้เป็นผลมาจากการอนุมัติ Bitcoin Spot ETF และการชะลอเทขายเหรียญจากสถาบันการเงิน ยังไม่ใช่ตลาดขาขึ้นที่แท้จริง โดยนักลงทุนไฟแรงยังอาจมีเวลาให้เข้ามาอย่างต่ำก็อีกราว 2 เดือน จนกว่าการ Halving จะเริ่มต้นขึ้น ซึ่งหลังจากนั้นก็ยังคงมีเวลาให้อีกหน่อยก่อนตลาดจะเข้าสู่ช่วง Bullrun อย่างแท้จริงและในครั้งนี้อาจทำลายสถิติ All time high ที่ราคา 68,700 ดอลลาร์ก็เป็นได้ และสิ่งหนึ่งที่เราสามารถคาดเดาได้จากกระแส Bullrun ครั้งนี้คือการที่มีผู้เล่นรายใหญ่อย่างสถาบันการเงินเข้ามาร่วมวงด้วย หมายความว่าสถาบันเหล่านั้นเป็นหลักประกันชั้นดีที่จะเป็นเกราะคอยปกป้องไม่ให้ Bitcoin นั้นล้มเหลวนั่นเอง
สำหรับนักลงทุนที่สนใจตัวคริปโตตัวอื่นนอกเหนือจาก Bitcoin นั้นก็ควรระวังตัวเป็นอย่างมาก แม้ว่าโอกาสที่ Bitcoin จะกลับมานั้นสูง และจะมีอานิสงส์ให้คริปโตตัวอื่นมีราคาเพิ่มขึ้นตามด้วย แต่ก็ไม่ใช่ว่าคริปโตทุกตัวจะขึ้นตามกัน เนื่องจากคริปโตแต่ละตัวก็มีคุณสมบัติ และการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป
อย่างไรก็ตามแม้ข้อมูลที่ผ่านมาจะระบุได้อย่างชัดเจนว่า Bitcoin นั้นกำลังเข้าสู่ช่วงขาขึ้น แต่เราก็ไม่สามารถเชื่อใจข้อมูลดังกล่าวได้อย่าง 100% และบทความนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์บอกเล่าความรู้เพียงเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุนแต่อย่างใด
คริปโทเคอร์เรนซีและโทเค็นดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้