<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ไขข้อสงสัย Michael Saylor รวยแค่ไหนหลังจากเริ่มลงทุนใน Bitcoin 

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Michael Saylor นั้นได้รับการยกย่องจากผลงานด้านนวัตกรรมด้านซอฟต์แวร์และทักษะทางการเงินที่โดดเด่น ด้วยทรัพย์สินสุทธิประมาณ 2,700 ล้านดอลลาร์ เส้นทางสู่ความสำเร็จของเขามีทั้งช่วงขาขึ้นและขาลง ตั้งแต่จุดสูงสุดของเทคโนโลยีที่บูมในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ไปจนถึงการก้าวไปสู่ช่วงฟองสบู่ dot-com 

พีคที่สุดคงหนีไม่พ้นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ใน Bitcoin ทำให้เขากลับมาสู่สถานะมหาเศรษฐีอีกครั้ง ซึ่งยืนยันถึงชื่อเสียงที่เขาได้รับในฐานะผู้ประกอบการที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลคนหนึ่ง

มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของ Michael Saylor โดยประมาณ

Michael Saylor ผู้ก่อตั้งบริษัทซอฟต์แวร์วิเคราะห์ธุรกิจ MicroStrategy ได้เก็บหอมรอมริบทรัพย์สินอย่างมีมีนัยสำคัญตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตามข้อมูลของ Forbes ทรัพย์สินสุทธิของเขาอยู่ที่ 2,700 ล้านดอลลาร์ ด้วยตัวเลขที่น่าประทับใจขนาดนี้ทำให้เขาติดโผบุคคลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกธุรกิจ

ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 Saylor ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยกลายเป็นเศรษฐีพันล้านโดยสาเหตุหลักมาจากการถือหุ้นใน MicroStrategy อย่างไรก็ตามแต่ขาขึ้นทางการเงินของเขาต้องหยุดชะงักลงจากวิกฤติฟองสบู่ในปี 2008 ซึ่งส่งผลให้มีการความมั่งคั่งทางฐานะและมูลค่าหุ้นของบริษัทเขาลดลง

แม้จะเกิดความเสียหายขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แต่ Saylor จากที่เกือบหลับแต่ดันกลับมาได้เสียอย่างนั้นแน่นอนว่านั้นเป็นผลมาจากการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของเขาใน Bitcoin (BTC) ในเดือนตุลาคม 2020 เขาตกเป็นพาดหัวข่าวหลังมีการเปิดเผยว่าซื้อ Bitcoin ในจำนวน กว่า17,732  BTC ในราคา 175 ล้านดอลลาร์ ต่อจากนั้น ตลอดปี 2020 เขาได้นั่งแท่นกำกับ MicroStrategy ให้ลงทุนกองทุนขององค์กรใน Bitcoin โดยใช้เงินสดของบริษัทและการกู้ยืมเพื่อซื้อ Bitcoin ในจำนวน 70,784 BTC ในราคา 1,100 ล้านดอลลาร์

การตัดสินใจของ Saylor ที่จะยอมรับ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองได้รับการพิสูจน์แล้วว่าทำกำไรได้มหาศาล ทำให้เขากลับมาอยู่ในลิสต์มหาเศรษฐีอีกครั้ง การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงแนวทางความคิดล้ำหน้าของเขาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังทำให้ชื่อเสียงของเขาแข็งแกร่งขึ้นในฐานะนักลงทุนที่เชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิทัลอีกด้วย

เชื่อได้เลยว่าความรวยของเขาจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ตราบใดที่ Bitcoin ยังขึ้นได้อีกเขาก็จะยิ่งรวยเพิ่มขึ้นแบบหยุดไม่อยู่เลยทีเดียวเชียว

ที่มา : Finbold