<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นับถอยหลัง ! Bitcoin Halving ครั้งที่ 4 อะไรคือสิ่งที่นักลงทุนควรรู้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Bitcoin มีการพุ่งขึ้นอย่างน่าประทับใจในปีนี้ โดยราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นถึง 40%  ภายในระยะเวลาเพียงแค่สองเดือน แตะที่ระดับมากกว่า 62,000 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับจุดสูงสุดตลอดกาลเดิมที่ประมาณ 69,000 ดอลลาร์

การพุ่งขึ้นของ Bitcoin ในปีนี้นี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (U.S. Securities and Exchange Commission – SEC) ที่อนุมัติกองทุน Spot Bitcoin ETF ในเดือนมกราคม

กองทุน ETF ที่อ้างอิงราคา Bitcoin โดยตรงเหล่านี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าร่วม ตลาด โดยไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงจากการซื้อขาย Bitcoin โดยตรง

นับตั้งแต่กองทุน Spot bitcoin ETFs เริ่มซื้อขายในสหรัฐฯ ในปีนี้ ก็มีเงินทุนไหลเข้าตลาดกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ โดยกองทุน Grayscale Bitcoin Trust ซึ่งเป็นกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มนี้ มีราคาเพิ่มขึ้น 48% นับตั้งแต่เดือนมกราคม

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีเหตุการณ์ทางเทคนิคที่กำลังจะเกิดขึ้นอีก ชื่อว่า “Halving” (Halving) ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ราคาบิตคอยน์พุ่งสูงขึ้นอีกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ 

ในเดือนเมษายน รางวัลที่นักขุดได้รับสำหรับการสร้างบิตคอยน์ใหม่จะถูกหั่นลงครึ่งหนึ่ง จากเดิม 6.25 บิตคอยน์ เหลือ 3.125 บิตคอยน์ ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นทุกๆ 4 ปี และจะดำเนินต่อไปจนกว่าบิตคอยน์ทั้ง 21 ล้านเหรียญหมด 

การ Halving ถูกเขียนไว้ในโค้ดของบิตคอยน์นับตั้งแต่เปิดตัว เพื่อสร้างความขาดแคลนและป้องกันภาวะเงินเฟ้อ เหตุการณ์ Halving ที่ผ่านมา มักตรงกับช่วงที่ราคาบิตคอยน์ปรับตัวขึ้นอย่างมาก โดยต่อไปนี้คือ ทุกสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ Halving ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนเม.ย.

Bitcoin คืออะไร ?

บิตคอยน์คือสกุลเงินดิจิทัลชนิดแรกที่สร้างขึ้นในปี 2009 มันมีลักษณะเด่นตรงที่เป็นสกุลเงินแบบกระจายศูนย์ (decentralized) ซึ่งหมายความว่ามันไม่ขึ้นอยู่กับธนาคารกลางหรือรัฐบาลใดๆ

เพื่อให้มีความปลอดภัยและป้องกันการปลอมแปลง บิตคอยน์ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า บล็อกเชน (blockchain) ในการติดตามธุรกรรม บล็อกเชนทำหน้าที่เหมือนบัญชีสาธารณะที่บันทึกธุรกรรมบิตคอยน์ทุก ๆ รายการไว้ โดยธุรกรรมเหล่านี้จะถูกเก็บไว้ในบล็อก

ความถูกต้องของธุรกรรมที่เก็บไว้ในแต่ละบล็อกนั้น จะได้รับการยืนยันโดยอาศัยการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน ซึ่งต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการคำนวณ เมื่อแก้ปัญหาเสร็จสิ้น บล็อกนั้นจะถูกนำไปต่อเติมไว้ที่ปลายสุดของ (โซ่) บล็อก ดังนั้น บล็อกเชนจึงเหมือนกับโซ่ที่เชื่อมบล็อกต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันอย่างมั่นคง

Bitcoins ใหม่ ถูกขุดขึ้นมาอย่างไร ?

บิตคอยน์ใหม่ถูกสร้างขึ้นมาผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “ การขุด” (mining) ซึ่งเปรียบเสมือนการขุดหาทองคำในโลกดิจิทัล  โดยนักขุด (miner) ใช้คอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน

 ปัจจุบันรางวัลสำหรับนักขุด Bitcoin ที่สามารถแก้ไขโจทย์ได้สำเร็จอยู่ที่   6.25 Btc ซึ่งคิดเป็นมูลค่าประมาณ 388,000 ดอลลาร์ 

Halving คืออะไร?

Halving  หรือ “การลดอุปทานลงครึ่งหนึ่ง”  หมายถึง  เหตุการณ์ที่รางวัลสำหรับการขุดบิตคอยน์จะ ลดลงครึ่งหนึ่ง  ทุกๆ  210,000 บล็อก  ซึ่งใช้เวลาประมาณ  4 ปี

เหตุผล  ที่ต้องมี Halving  ก็เพื่อควบคุมจำนวนบิตคอยน์ทั้งหมดในระบบ  ไม่ให้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างรวดเร็วเกินไป

ผลลัพธ์  ของ Halving :

  • อุปทาน ของบิตคอยน์ใหม่จะ ลดลง
  • ความหายาก ของบิตคอยน์จะ เพิ่มขึ้น
  • ราคา ของบิตคอยน์ มีแนวโน้ม ที่จะ เพิ่มสูงขึ้น

Halving  เกิดขึ้นมาแล้ว  3 ครั้ง :

  • ครั้งแรก ในปี 2012 รางวัลลดลงจาก 50 เหลือ 25 บิตคอยน์
  • ครั้งที่สอง ในปี 2016 รางวัลลดลงจาก 25 เหลือ 12.5 บิตคอยน์
  • ครั้งที่สาม ในปี 2020 รางวัลลดลงจาก 12.5 เหลือ 6.25 บิตคอยน์
  • ครั้งที่สี่ จะเกิดขึ้นในเดือนเม.ย.  2024 โดยรางวัลลดลงจาก 6.25 เหลือ 3.125 บิตคอยน์

การ Halving ส่งผลต่อราคาของ bitcoin อย่างไร ?

Halving คือเหตุการณ์ที่รางวัล Bitcoin ที่นักขุดได้รับจากการขุดบล็อกใหม่จะถูกแบ่งครึ่งทุกๆ 4 ปี ส่งผลให้อุปทานใหม่ของ Bitcoin ที่เข้าสู่ระบบลดลง

โดยทั่วไปแล้ว เชื่อกันว่า Halving ส่งผลดีต่อราคา Bitcoin ในระยะยาว เหตุผลหลักๆ คือ :

1. อุปทาน Bitcoin ลดลง : Halving ทำให้อุปทาน Bitcoin ใหม่ที่เข้าสู่ระบบลดลง 50% สิ่งนี้สามารถนำไปสู่แรงกดดันด้านราคา bullish

2. ความต้องการ Bitcoin เพิ่มขึ้น : Bitcoin ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ 

3. ความเชื่อมั่นของนักลงทุน : Halving เป็นการย้ำเตือนถึงคุณสมบัติเฉพาะของ Bitcoin  คือจำนวน Bitcoin ที่มีจำกัด สิ่งนี้สามารถเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน และกระตุ้นให้พวกเขาซื้อ Bitcoin

ตัวอย่างเช่น :

  • Halving ครั้งที่ 1: เกิดขึ้นในปี 2012 ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นจาก $12 แตะ $1,100 ภายใน 18 เดือน
  • Halving ครั้งที่ 2: เกิดขึ้นในปี 2016 ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นจาก $600 แตะ $20,000 ภายใน 18 เดือน
  • Halving ครั้งที่ 3: เกิดขึ้นในปี 2020 ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นจาก $9,000 แตะ $64,000 ภายใน 12 เดือน
  • Halving ครั้งที่ 4: คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนเม.ย. ปี 2024

นักลงทุนหลายคนคาดการณ์ว่า Halving ครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อราคา Bitcoin อย่างมาก

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องทำการวิจัยของคุณเอง และตัดสินใจลงทุนอย่างรอบคอบ

ที่มา :  Quartz