ล่าสุดราคาของ Bitcoin ได้มีการร่วงดิ่งลงอย่างรุนแรงทะลุ 66,000 ดอลลาร์ในเช้าวันนี้ หลังจากที่ฟื้นกลับไปยืนเหนือ 67,000 ดอลลาร์ได้ไม่นาน
สำหรับสาเหตุที่ไม่กี่วันที่ผ่านมาราคาของ Bitcoin มีการปรับลดลงคาดว่า เป็นเพราะในปัจจุบันตลาด Bitcoin นั้นมีความร้อนแรงเกินไปราคา Bitcoin ได้มีการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว สร้างความคึกคักให้กับตลาดคริปโทเคอร์เรนซี สถานการณ์ดังกล่าวนำไปสู่ภาวะ “overheated” หรือ “overbought” หมายความว่า นักลงทุนเริ่มเข้าซื้อ Bitcoin มากเกินไปโดยไม่ได้พิจารณาปัจจัยพื้นฐาน ส่งผลให้ราคา Bitcoin ปรับตัวลงเพื่อหาสมดุลใหม่
อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา Bitcoin คือ การนับถอยหลังสู่เหตุการณ์ Halving ซึ่งจะเกิดขึ้นในอีกประมาณ 30 วันข้างหน้า โดยปกติแล้ว ราคา Bitcoin มักปรับตัวลงก่อนเข้าสู่ช่วง Halving เนื่องมาจากแรงเทขายของนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไร ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับอุปทาน Bitcoin ใหม่ที่จะลดลง
นอกเหนือไปกว่านั้นวันที่ 20 มีนาคม ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังจะมีการประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับนโยบายการเงิน ตลาดจับตามองการประชุมครั้งนี้อย่างใกล้ชิด โดยคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะยังคงไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลานี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึง Bitcoin
สำหรับในการประชุมครั้งที่แล้วเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทาง FED ยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้อยู่ที่ระดับ 5.25-5.5% แสดงให้เห็นถึงภาวะเงินเฟ้อที่ยังไม่คลี่คลาย แต่ถ้าหากสถานการณ์ภายในสหรัฐฯ ดีขึ้น เราอาจจะได้เห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้
ในขณะที่รายงาน Bitcoin มีการซื้อขายอยู่ที่ 65,988 ดอลลาร์ ทำราคาลดลงมา 2.52% ตลอดช่วงวันที่ผ่านมา อ้างอิงข้อมูลจาก Coinmarketcap
