เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา หนึ่งในบริษัทในการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Fidelity ได้ออกมาแก้ไขข้อมูลขออนุมัติกองทุน Spot Ethereum ETF โดยจะเพิ่มโทเค็นที่ถูกเดิมพัน (Stake) เข้าไปในทรัพย์สินของกองทุนด้วย
การแก้ไขข้อมูลในครั้งนี้ ทาง Fidelity ต้องการที่จะเพิ่มโทเค็น ETH ที่ถูก Lock เอาไว้เข้าไปส่วนหนึ่งของทรัพย์สินของกองทุน และอาจรวมถึงบริษัทในเครือ เพื่อที่จะทำให้กองทุนได้รับผลตอบแทนบางส่วนจากการ Stake ในการสร้างรายได้และเป็นค่าตอบแทนสำหรับการให้บริการ
สิ่งที่น่าสนใจคือหนึ่งในบริษัทที่อยู่ในเครืออย่าง Lido ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุด ปัจจุบันมี ETH ที่ถูก Stake เอาไว้มีมูลค่าถึง 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก The Block
โดยการ Staking คือหนึ่งในระบบการตรวจสอบธุรกรรมบนบล็อกเชนแบบ proof-of-stake (PoS) ของ Ethereum ที่จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาฝากโทเค็นเพื่อที่จะตรวจสอบธุรกรรม และรับผลตอบแทนได้ ซึ่งการมาของ Fidelity ที่มีเงินทุนมหาศาลนี้อาจส่งผลให้ระบบนิเวศของ Ethereum เปลี่ยนไปตลอดกาล
อย่างไรก็ตาม ถ้าหาก SEC ไม่อนุมัติกองทุน Ether ETF ภายในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ ผู้ออกหลักทรัพย์ในอนาคตรวมถึง Fidelity จะต้องยื่นใบสมัครอีกครั้งในภายหลัง และอาจเป็นการชี้ว่าความเป็นไปไม่ได้ที่กองทุนจะเปิดตัว ETF คริปโตอื่นๆ ในอนาคต
ในขณะที่ Eric Balchunas นักวิเคราะห์ของ Bloomberg ETF ได้คาดการณ์ว่า ความเป็นไปได้ที่จะได้รับการอนุมัติ Ether ETF ตามกำหนดเวลาของ Van Eck ในเดือนพฤษภาคมนั้นอยู่ที่เพียง 35% และการที่ SEC ไม่ออกมาเคลื่อนไหวนั้นถือเป็นสัญญาณที่น่ากังวล
ที่มา: TheBlock, Cointelegraph