เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จดหมายเกือบ 300 หน้าจากผู้เสียหายทั่วโลก ที่เล่าถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการล่มสลายของกระดานเทรดคริปโต FTX ได้ถูกส่งไปยังผู้พิพากษาของรัฐบาลกลาง(สหรัฐอเมริกา) ที่รับผิดชอบในคดีอาญาของ Sam Bankman-Fried (อดีตผู้ก่อตั้ง FTX)
สิ่งที่น่าสนใจคือ ผู้เสียหายที่ไม่พอใจบอกว่าการได้รับเงินคืนอย่างเต็มจำนวนนั้นไม่เพียงพอ สิ่งที่พวกเขาต้องการคือ ‘เหรียญคริปโตของพวกเขา’
ชายชาว Australia วัย 24 ปี เขียนจดหมายถึงผู้พิพากษาว่า “ผมไม่ได้เล่นพนันด้วยการใช้เลเวอเรจหรือซื้อเหรียญมีมสแกมไร้สาระ ผมค้นคว้าโปรเจกต์ที่มีคุณภาพและลงทุนระยะยาวเพื่อหวังเปลี่ยนชีวิต เงินของผมจะมีมูลค่าเติบโตขึ้นอย่างมาก ถ้าคุณ Sam (ผู้ก่อตั้ง FTX) ไม่ขโมยเงินลงทุนของผมไปเสียก่อน”
ชาวตุรกีรายหนึ่ง อ้างว่าพวกเขามีเหรียญคริปโตเคอเรนซี มูลค่ารวม $7,356.68 ในวันที่ FTX ยื่นคำร้องล้มละลายเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่พวกเขาควรจะได้รับคืน แต่ปัจจุบันมูลค่าของเหรียญเหล่านี้ (CEL, DOGE, LTC, LUNC, TRX และ XRP) ได้ลดลงไปแล้ว
มีผู้เสียหายอีกหนึ่งราย เขียนว่า “สุดท้ายแล้ว บิตคอยน์ 2 เหรียญของผมก็ยังเป็นทรัพย์สินของผมอยู่ ไม่ใช่ $140,000 หรือ $32,000 แต่มันคือบิตคอยน์ 2 BTC”
คนอิตาลีคนหนึ่งตะโกนว่า “ผมต้องการคริปโตของผมคืน! ผมไม่ได้ต้องการเงินดอลลาร์!!!”
โดยภาพรวมจดหมายเหล่านี้ถือเป็นแถลงการณ์ผลกระทบจากกลุ่มผู้เสียหาย เพื่อช่วยเหลือผู้พิพากษาในการตัดสินโทษ Sam Bankman-Fried (SBF) ในสัปดาห์หน้า
จดหมายเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เหยื่ออธิบายผลกระทบทางด้านอารมณ์ และด้านการเงินที่พวกเขาต้องเผชิญ อันเนื่องมาจากอาชญากรรมของจำเลย โดยผู้พิพากษายังมีข้อโต้แย้งอีกมากมายให้พิจารณา
ชาว Venezuela รายหนึ่งบอกว่าเขาสูญเสียเงินเก็บทั้งชีวิต ซึ่งถึงแม้มันจะไม่ใช่เงินหลักล้าน แต่มันก็เพียงพอต่อการดำรงชีวิตขั้นพื้นฐาน และเป็นโอกาสที่เขาได้จะย้ายไปอยู่ต่างประเทศ (แปลมาจากภาษาสเปน)
ในขณะที่ศาสตราจารย์ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์รายหนึ่งกล่าวว่า “นอกเหนือจากเงินออมทั้งหมดของผมตลอด 9 ปี ผมและภรรยายังกู้ยืมเงินส่วนบุคคลจำนวน 220,000 ดอลลาร์เพื่อนำมาซื้อ Bitcoin บนแพลตฟอร์ม FTX”
คนบางกลุ่มก็อยากจะเอาคืน SBF ให้สาสม
มีผู้เสียหายรายนึงพูดว่า “เรียนท่านผู้พิพากษาที่เคารพ ขณะที่ท่านกำลังพิจารณาโทษที่เหมาะสมสำหรับ นาย Sam Bankman-Fried ผมขอให้ท่านพิจารณาไม่เพียงแค่ความผิดพลาดทางการเงินเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนด้วย”
อีกคนหนึ่งพูดว่า “ผมขอให้ลงโทษจำคุกเขาอย่างน้อย 30 ปี เพื่อชดเชยเวลาหลายปีที่เขาพรากไปจากตัวผมและคนอีกหลายพันคน”
เป็นที่สังเกตว่าหาก Sam Bankman-Fried (SBF) โดนตัดสินโทษจำคุก 50 ปี ก็เหมือนกับเขาติดคุกตลอดชีวิตเพราะว่าเขาจะได้ออกจากคุกตอนอายุมากถึง 82 ปีเลยทีเดียว
ที่มา:axios