Binance เว็บเทรดสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำ ได้ยกระดับมาตรการสำหรับการ KYC ที่เข้มงวดมากขึ้น
ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายนเป็นต้นไป ผู้ใช้งานที่ยังไม่ได้ยืนยันตัวตน KYC จะไม่สามารถเข้าถึงบัญชีรอง (sub-accounts) ที่ตนเองสร้างขึ้นภายใต้โปรแกรม Binance Link ได้อีกต่อไป
โปรแกรม Binance Link เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน 2019 เพื่อช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถขยายกิจการของตนได้ โดยอาศัยเทคโนโลยีของ Binance ซึ่งโปรแกรมนี้มี “API แบบ Plug and Play” เปิดให้บริการลูกค้าที่หลากหลาย เช่น เว็บเทรด , ตัวจัดการสินทรัพย์, บอทเทรด และผู้ให้บริการกระเป๋าเงินสกุลเงินดิจิทัล เป็นต้น
ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เจ้าของผู้ถือบัญชี Exchange Link บน Binance จำเป็นต้องผ่านการยืนยันตัวตน (KYC) เพื่อใช้บริการต่อไป โดยข้อมูลที่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องยื่น ได้แก่ แหล่งที่มาของเงินทุน เอกสารยืนยันที่อยู่ และอื่น ๆ
ทั้งนี้บัญชีย่อยที่ไม่มีการ KYC ข้อมูลอย่างครบถ้วน จะถูกจำกัดการฝากเงิน โดยผู้ใช้งานดังกล่าวจะไม่สามารถส่งคำสั่งซื้อใหม่หรือเก็บคำสั่งซื้อที่มีอยู่ได้ รวมถึงการซื้อขายฟิวเจอร์สและมาร์จิ้นจะไม่สามารถใช้งานได้
Binance ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า สินทรัพย์ในบัญชีย่อยอาจถูกบล็อกในบางกรณี และบัญชีดังกล่าวจะไม่สามารถรับเงินฝากได้เช่นกัน
ที่มา : u.today