ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตลาดซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี และความผันผวนของราคานั้นมักจะเป็นของคู่กันเสมอ ซึ่งไม่นานมานี้ราคา Bitcoin ร่วงลงมากกว่า 3.6% แตะ 69,000 ดอลลาร์อีกครั้ง แม้ว่าราคาขึ้นไปแตะ 72,000 ดอลลาร์อีกครั้งเมื่อวานนี้ ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap
ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ส่งผลให้มีนักลงทุน Futures โดนชำระบัญชี (Liquidations) ไปมากกว่า 237 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะแค่นักลงทุนเลเวอเรจก็ถูกชำระบัญชีไปรวมถึง 184.79 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่นักลงทุนที่มีสถานะขายถูกชำระบัญชีไป 52.4 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก CoinGlass
นอกจากนี้ สินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกชำระบัญชีมากที่สุดในช่วง 1 ชั่วโมงที่ผ่านคือ Ethereum (ETH) ด้วยมูลค่ารวมกว่า 23.52 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ Bitcoin ได้ตามมาด้วยจำนวนถึง 15.61 ล้านดอลลาร์ และ Solana (SOL) ที่มีนักลงทุนถูกชำระบัญชีไป 3.01 ล้านดอลลาร์
สิ่งที่น่าสนใจคือเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเคยเกิดขึ้นหลังจากที่ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นแตะ 72,000 ดอลลาร์ไปเมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา (เมื่อวานนี้) ที่ได้ทำให้นักลงทุนถูกชำระบัญชีไปมากถึง 186.8 ล้านดอลลาร์
โดยการชำระบัญชีที่เกิดขึ้นในวันนั้นเป็น Bitcoin รวมมูลค่ากว่า 61.6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถานะขายมากกว่า 33.9 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่สถานะเลเวอเรจโดนชำระบัญชีไป 27.7 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้คำสั่งชำระบัญชีใหญ่ที่สุดมีมูลค่าสูงถึง 4.49 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมาจาก Bitcoin บนกระดานเทรด Binance
ทั้งหมดนี้ ส่งผลให้มูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับนักลงทุนที่ถูกชำระบัญชีไป หลังจากที่ราคา Bitcoin ผันผวนอย่างรุนแรงรวมทั้งสิ้นกว่า 339 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะแค่ Bitcoin ก็มีนักลงทุนเสียหายไปมากถึง 77.3 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตามข้อมูลความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่การคาดการณ์เท่านั้น ทั้งนี้นักลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่เสมอ
ที่มา: Cointelegraph