จากการวิเคราะห์ข้อมูลบนเครือข่ายบล็อกเชน เผยให้เห็นว่า มีผู้ดูแลเพียงรายเดียวที่ไม่ได้เปิดเผยชื่อ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น Cobo Custody ที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อเครือข่าย Bitcoin
นักวิเคราะห์รายหนึ่งเขียนในโพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ว่า ผู้ดูแลรายนี้ควบคุมที่อยู่กระเป๋าเงิน Coinbase ของกลุ่มการขุด Bitcoin อย่างน้อย 9 แห่ง ซึ่งรวมกันมีอัตราแฮชเรต (Hash Rate) คิดเป็นสัดส่วนอย่างน้อย 47% ของอัตราแฮชเรตทั้งหมด
หมายความว่า Bitcoin ทุก ๆ 100 BTC ที่เพิ่งขุดใหม่ มีจำนวน 47 BTC จะถูกส่งไปยังผู้ดูแลรายนี้ การที่ผู้ดูแลรายเดียว (Cobo Custody) มีอำนาจควบคุมมากเกินไป ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการสร้างความโปร่งใส รวมถึงการกระจายอำนาจของผู้ดูแลไปยัง Bitcoin Mining Pool ต่างๆ
กลุ่มขุด Bitcoin พึ่งพาผู้ดูแลเพียงรายเดียวมากเกินไป
การวิเคราะห์ดังกล่าวตั้งข้อสังเกตว่า Bitcoin Mining Pool ยอดนิยมหลายแห่ง เช่น AntPool, F2Pool, Binance Pool, Braiins, btccom, SECPOOL, และ Poolin ล้วนใช้บริการผู้ดูแลรายเดียวกันในการจัดเก็บผลตอบแทน Bitcoin ที่ขุดได้ (Coinbase) นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ULTIMUSPOOL และ 1THash ก็เก็บในที่อยู่เฉพาะกระเป๋าเงิน Coinbase ไว้กับผู้ดูแลรายเดียวกันอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ Luxor เคยใช้บริการผู้ดูแลรายเดียวกันนี้มาก่อน แต่ได้เปลี่ยนระบบ หลังจากมีการชี้แจงว่า พวกเขาก็พึ่งพาผู้ดูแลรายเดียวกัน
ที่อยู่ Coinbase คือ ที่อยู่เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ Mining Pool เมื่อใดก็ตามที่กลุ่มขุดสามารถยืนยันบล็อกธุรกรรมสำเร็จประมาณทุก 10 นาที จะได้รับรางวัล 6.25 BTC ในปัจจุบัน รางวัลดังกล่าวจะถูกฝากไปยัง Coinbase address โดยอัตโนมัติ
การรวมศูนย์ในการจัดเก็บเหรียญ Bitcoin ดังกล่าว ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับศูนย์กลางของที่จัดเก็บเหรียญ ทั้งที่โดยหลักการแล้ว เครือข่าย Bitcoin ควรกระจายศูนย์ (decentralized) โดยอาศัยเหล่าผู้ขุดที่ไม่มีใครคนใด หรือกลุ่มใด ครอบครองอำนาจการประมวลผล (hash rate) มากกว่า 50%
อัตราแฮชเรต (Hash Rate) คือ ตัวชี้วัดกำลังการประมวลผลที่ใช้สนับสนุนเครือข่าย Bitcoin ยิ่งอัตราแฮชสูง แสดงว่า เครือข่ายยิ่งมีความปลอดภัยมากขึ้นเนื่องจากการโจมตีจะทำได้ยากลำบาก ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ YCharts เครือข่าย Bitcoin ขณะนี้มีอัตราแฮชอยู่ที่ 603 EH/s
ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการรวมศูนย์
การศึกษาใหม่เผยให้เห็นว่า ผู้ดูแลรายเดียว (Cobo Custody) ควบคุม Bitcoin ที่เพิ่งขุดได้เกือบครึ่งหนึ่ง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย หากผู้ดูแลรายนี้ถูกโจมตี กลุ่มขุดเหล่านี้ก็อาจสูญเสียทรัพย์สินจำนวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยโดยรวมและความเชื่อมั่นในเครือข่าย Bitcoin
การวิจัยครั้งนี้ไม่เพียงแต่ชี้ให้เห็นว่า Mining Pool ทั้งเก้าพึ่งพาผู้ดูแลรายเดียว (Cobo Custody) ในการจัดเก็บ Bitcoin ที่ขุดได้เท่านั้น แต่ยังพบว่า Mining Pool ทั้งเก้าเหล่านี้ยังใช้บริการเร่งรัดธุรกรรมของ AntPool เพื่อยืนยันธุรกรรมของตนเองอีกด้วย นอกจากนี้มีรายงานอีกว่า ผู้ดูแลรายนี้ ยังใช้บริการเร่งรัดธุรกรรมของ AntPool และ ViaBTC บ่อยครั้ง เพื่อถอน Bitcoin ออกเป็นจำนวนมาก
ตามปกติแล้ว บริการเร่งรัดธุรกรรม (transaction accelerator) ถูกออกแบบมาเพื่อเร่งความเร็วในการยืนยันธุรกรรมบางรายการอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าบริการนี้จะมีประโยชน์ สะดวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เครือข่ายแออัด แต่ก็อาจส่งผลเสียต่อการกระจายศูนย์ (decentralization) ของการประมวลผลธุรกรรมบนเครือข่าย Bitcoin เนื่องจากธุรกรรมเหล่านี้จะได้รับการยืนยันโดย Mining Pool แบบเฉพาะเจาะจง
ที่มา : bitcoinist