บริษัทจัดการสินทรัพย์ คริปโต Bitwise Asset Management ชี้ว่า ในเดือนแรกหลังจากเหตุการณ์ Bitcoin halving ที่ผ่านมา ราคา Bitcoin มักจะไม่ค่อยผันผวน แต่ใน ช่วง 1 ปีถัดมา ราคา Bitcoin มักจะปรับตัวเพิ่มตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
บริษัทจัดการสินทรัพย์คริปโต Bitwise Asset Management ออกมาชี้แจงว่า แม้เหตุการณ์ Bitcoin halving ที่คาดการณ์ไว้ในวันที่ 20 เมษายนนี้ จะเป็นที่น่าจับตามอง แต่ข้อมูลในอดีตชี้ว่า ราคา Bitcoin ในเดือนถัดจากเหตุการณ์ halving มักจะไม่ดีนัก
บริษัท Bitwise ได้โพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา โดยวิเคราะห์ข้อมูลการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin ในอดีต ย้อนหลังจาก 3 ครั้งก่อนหน้านี้ที่เกิดเหตุการณ์ halving พบว่า หลัง halving ราคา Bitcoin มักจะลดลงในช่วงเดือนแรก แต่ในปีถัดมาราคา Bitcoin มักจะพุ่งขึ้นอย่างน้อยเป็นหลักร้อยเปอร์เซ็นต์
ในเดือนแรกหลังจากเหตุการณ์ halving ปี 2012 ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้น 9% แต่ในช่วงปีถัดมา ราคา Bitcoin พุ่งสูงถึง 8,839%
ในปี 2016 เหตุการณ์ Bitcoin halving ก็มีรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน โดยราคา Bitcoin ลดลง 10% ในเดือนถัดมา และราคา Bitcoin เพิ่มขึ้น 285% สู่จุดสูงสุดที่ 20,000 ดอลลาร์ในปี 2017
อีกครั้งในปี 2020 ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้น 6% ในเดือน หลังจากการ halving จากนั้นราคา Bitcoin จึงเพิ่มขึ้น 548% และเพิ่มขึ้นอีกในปีต่อไป
ตามข้อมูลจาก Bitwise ระบุว่า “แม้ข้อมูล Bitcoin halving ย้อนหลังจะยังมีจำนวนจำกัด แต่รูปแบบที่ปรากฏชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่น่าสนใจ”
“ตลาดคริปโต มักให้ความสำคัญกับคาดการณ์ผลกระทบระยะสั้นของ Bitcoin halving ได้อย่างถูกต้อง แต่มักประเมินผลกระทบระยะยาวต่ำเกินไป”
วัฏจักรตลาดปัจจุบันของ Bitcoin ถือเป็นครั้งแรกที่ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดตลอดกาล ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ halving
ราคา Bitcoin พุ่งแตะจุดสูงสุดที่ 73,679 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 13 มีนาคม แต่หลังจากนั้นราคา Bitcoin ลดลง 16% เหลืออยู่ที่ประมาณ 64,400 ดอลลาร์
ผู้บริหารหลายๆคน ในอุตสาหกรรม ก็มองโลกแง่ร้ายไม่แพ้กัน โดย Markus Thielen หัวหน้า 10x Research คาดการณ์ไว้เมื่อวันที่ 13 เมษายนว่า อาจมีการขายเครื่องขุดออก มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ หลังจากการ halving ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันให้แก่ตลาดคริปโต
ในขณะเดียวกัน Fred Thiel CEO ของบริษัท Marathon กล่าวว่า ราคาที่พุ่งขึ้นก่อนเหตุการณ์ halving ถูกคาดการณ์ไว้แล้ว ทำให้ราคาที่คาดว่าจะพุ่งขึ้นหลัง halving นั้นเกิดขึ้นเร็วกว่าปกติ
เมื่อวันที่ 16 เมษายน นักเทรดเดอร์และนักวิเคราะห์ “Rekt Capital” ได้โพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X เพื่อแสดงเหตุการณ์การปรับฐานของตลาด (Market Correction) นับตั้งแต่จุดต่ำสุดของตลาดขาลงในปี 2022
ซึ่งตลาดมีการปรับตัวลดลง (pullbacks) อย่างรุนแรง 5 ครั้ง ตั้งแต่ 18% ไปจนถึง 23% ปัจจุบันตลาดได้ปรับตัวลดลงแล้ว 16% ซึ่งบ่งชี้ว่า การปรับฐานราคาอาจยังไม่หยุดลงเพียงแค่นี้
ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ “Cold Blooded Shiller” ตั้งข้อสังเกตว่า การปรับฐาน 30% ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จะบอกเป็นนัยว่า ราคา BTC อาจร่วงลงไปที่ประมาณ 51,000 ดอลลาร์
ที่มา : cointelegraph