<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

“ท๊อป จิรายุส” CEO Bitkub ตอบชัด ! Bitcoin Halving ครั้งที่ 4 ส่งผลต่อราคาอย่างไร?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา CEO ของ Bitkub แพลตฟอร์มการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ Business Tomorrow บนช่อง Youtube “ทันโลกกับ Trader KP” เกี่ยวกับประเด็นร้อนแรงของ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4 ที่กำลังจะมาถึง

ความพิเศษของการ Halving ในครั้งนี้

คุณท๊อปกล่าวว่า Bitcoin Halving นั้นเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับ Bitcoin ไม่มีทางเปลี่ยนได้และจะเกิดการ Halving ต่อไปเรื่อย ๆ อีก 29 ครั้ง หรือ 116 ปี แต่ในครั้งนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพราะเงินทุนจากทางฝั่งสถาบันนั้นเข้ามาลงทุนใน Bitcoin จากเดิมที่มีแต่นักลงทุนรายย่อย ซึ่งตลอด 15 ปีที่ผ่านมา Bitcoin นั้นไม่ได้มีการกำหนดชัดเจนว่าเป็นสิ่งที่ถูกหรือผิดกฎหมาย แต่ในครั้งนี้ Bitcoin ได้รับการยอมรับทางด้านของกฎหมายและมีโครงสร้างที่แข็งแรงเพียบพร้อมแล้วจึงทำให้สถาบันเริ่มเข้ามาให้ความสนใจ

นักขุด Bitcoin จะเป็นอย่างไรต่อไป?

ถัดมาในประเด็นที่สอง คุณท๊อปได้แสดงความคิดเห็นว่าจะเกิดความเป็นไปได้ 3 อย่างสำหรับเหล่านักขุด Bitcoin ที่จะยังสามารถทำกำไรคุ้มทุนได้อยู่ในอนาคตหลังเกิดการ Halving ซึ่งจะประกอบไปด้วยเหตุการณ์แรกคือ ราคาของ Bitcoin ต้องเพิ่มขึ้นเท่าตัว เหมือน 3 ครั้งที่ผ่านมาเนื่องจากอุปทานของ Bitcoin ลดลงครึ่งหนึ่งเช่นกัน จึงจะทำให้นักขุดสามารถอยู่รอดได้ เหตุการณ์ที่สองคือต้องมีนักขุดทั่วโลกถอนตัวออกไปกว่าครึ่งถึงจะสามารถทำให้คนที่เหลืออยู่ทำกำไรได้ต่อไป และเหตุการณ์ที่สามที่เป็นความเป็นไปได้ในระยะยาวคือเกิดนวัตกรรมทางพลังงานขึ้น ทำให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการ Bitcoin ลดลงอย่างมากจนใครก็สามารถเข้าถึงได้

ราคาของ Bitcoin จะเป็นไปในทิศทางไหน?

ต่อมาในแง่ของราคา Bitcoin คุณท๊อปไม่ได้ให้การคาดการณ์ที่ชัดเจนแต่ได้ระบุว่าตลอดทุก cycle ของ Bitcoin นั้นราคาของ Bitcoin จะมีมูลค่ามากขึ้นมากเรื่อย ๆ แต่ผลกำไรเป็นเปอร์เซนต์นั้นลดน้อยลงเรื่อย ๆ จาก 10 เท่า เหลือ 5 เท่า 3 เท่า เป็นต้น และในครั้งนี้คุณท๊อปได้เปรยไว้ว่า อ้างอิงจากประวัติศาสตร์นักลงทุนจะคาดเดาราคาสูงเกินจริงจากราคาดุลยภาพ (equilibrium price) ส่งผลให้ราคา Bitcoin พุ่งทะยานซึ่งอย่างน้อย ๆ หากราคาพุ่งไป 1 เท่าราคาของ Bitcoin จะไปหยุดอยู่ที่ประมาณ 120,000 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเข้าสู่ตลาดขาลงรอบถัดไป 

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่านอกเหนือจากราคาที่เพิ่มขึ้นทุก cycle แล้วคุณท๊อปยังได้ตั้งข้อสังเกตอีกว่า ราคาของ Bitcoin จะไม่มีทางลดไปต่ำกว่าจุดพีคที่แล้วของรอบที่แล้วอย่างแน่นอน และมันไม่เคยเกิดขึ้นเพราะตัวของนักขุดจะขาดทุน ซึ่งเป็นกลไกของหลักเศรษฐศาสตร์ เว้นเสียแต่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ช็อกโลกเช่นตอนที่เกิดเหตุการณ์ LUNA หรือ FTX ที่ทำให้ราคา Bitcoin ร่วงแต่ก็ร่วงไม่นานก็ฟื้นกลับขึ้นมาได้

อย่างไรก็ตามคุณท๊อปได้ชี้แจงอีกว่ายิ่งมีผู้ใช้งานมากขึ้นเท่าไรความผันผวนจะยิ่งต่ำลงเรื่อย ๆ ดังนั้นราคาจะไม่มีทางที่ผันผวนมากขนาดนั้นแน่นอน

การยอมรับ Bitcoin ที่เพิ่มมากขึ้นทั่วโลก

ปัจจุบันนอกจากสหรัฐ ฯ​ แล้วฮ่องกงยังเป็นอีกหนึ่งรายที่เปิดรับให้มีการซื้อขาย Bitcoin Spot ETFs โดยคุณท๊อปเชื่อว่าในอนาคตจะมีอีกหลายประเทศเปิดกองทุน ETFs เป็นของตนเองตามมา ส่งผลให้ตลาดจะครึกครื้นขึ้น โดยปกติแล้วตลาดควรจะคึกคักหลังการ Halving 6 เดือน แต่ในปีนี้ในช่วงก่อน Halving กลับมีความคึกคักเป็นอย่างมากซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ Bitcoin 

นอกเหนือจากนี้คุณท๊อปยังได้ให้ความเห็นถึงประเด็นของฮ่องกงให้การอนุมัติ Bitcoin Spot ETFs ทั้ง ๆ ที่ประเทศจีนสั่งแบนคริปโตเคอร์เรนซีด้วยว่า ในความเห็นของเขา “ฮ่องกงไม่ใช่จีน”เพราะเป็นพื้นที่พิเศษที่จะกลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินของฝั่งตะวันออก โดยคุณท๊อประบุว่าไม่มีคนรวยคนไหนเก็บเงินในประเทศตัวเองดังนั้น สิงคโปร์ และ​ ฮ่องกงจึงมีความสำคัญอย่างมากเนื่องจากสามารถเก็บเงินได้โดยปลอดภาษี 

สรุป

จะเห็นได้ว่าการ Halving ครั้งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งในอนาคต Bitcoin จะกลายเป็น Gold Standard ของสกุลเงินดิจิทัลหลายตัวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และเรากำลังจะเข้าสู่ยุคทองของเงินดิจิทัลกันในไม่ช้า ซึ่งด้วยเทคโนโลยีที่เรามีอยู่ในขณะนี้เราอาจจะได้เห็นอนาคตดังกล่าวเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็เป็นได้

ที่มา : Youtube