ในขณะที่ตลาดคริปโตมีการฟื้นตัวเล็กน้อยในวันศุกร์ที่ผ่านมา เหรียญมีมหมาชิบะยอดนิยมอย่าง Shiba Inu (SHIB) ก็ได้สร้างฐานสนับสนุนกลุ่มใหม่ขึ้น ในขณะที่จำนวนผู้ถือทั้งหมดเพิ่มขึ้นไปสู่ระดับใหม่ ตามข้อมูลจาก Etherscan ซึ่งเป็นตัวสำรวจบล็อกเชน เผยว่า จำนวนผู้ถือ SHIBบน Ethereum (ETH) ทะลุ 1.4 ล้านคนไปแล้ว
ปัจจุบันมีผู้ถือ SHIB บน Ethereum อยู่ที่ 1,400,057 คน โดยราคาของมันสามารถฟื้นตัวขึ้นได้ 5.2% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่ราคาของ Bitcoin (BTC) ใกล้เคียงกับ 65,000 ดอลลาร์อีกครั้ง หลังจากหายไปจากระดับราคานี้เป็นเวลา 4 วันติดต่อกัน ด้วยความสัมพันธ์ที่สูง (0.84) ระหว่าง SHIB กับ BTC ส่งผลให้ราคาของ SHIB พุ่งสูงขึ้นเหนือระดับแนวรับด้านบนที่ 0.000023 ดอลลาร์ในขณะที่เขียนบทความนี้ แม้ว่ากรอบเวลา 30 วันที่ผ่านมา ราคาจะยังคงลดลงอยู่ 8.3%
เส้นทางสู่จุดสูงสุดของ SHIB: ปัจจัยสำคัญบนเครือข่ายบล็อกเชนเข้ามาเกี่ยวข้อง
ในขณะที่ SHIB ทะลุกรอบขาลงที่เป็นแนวเส้นขนาน ซึ่งเป็นกรอบที่ราคาเคลื่อนไหวมาเป็นเวลานานในเดือนนี้ สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ เหรียญมีม SHIB กำลังสร้างฐานสนับสนุนที่บริเวณ 0.00001 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวรับทางจิตวิทยาที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือกว่า 396,810 คน โดยถือครอง SHIB รวมกันทั้งสิ้น 243.91 ล้านล้านโทเค็น
ฐานสนับสนุนที่แข็งแกร่งนี้ มีราคาตั้งแต่ 0.000008 ดอลลาร์ถึง 0.000014 ดอลลาร์ ซึ่งจะมีประโยชน์ ในการรับมือกับความท้าทายที่เกิดจากการปรับฐานของตลาดคริปโต เนื่องจากราคา SHIB ในปัจจุบันซื้อขายกันอยู่เหนือระดับราคานี้ สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือ ฐานสนับสนุนด้านบนระหว่าง 0.000014 ดอลลาร์ ถึง 0.000019 ดอลลาร์ มีโทเค็น SHIB มากถึง 438.99 ล้านล้านโทเค็น แม้ว่าจะกระจายอยู่ระหว่างที่อยู่กระเป๋าเงินดิจิทัล 86,450 ที่อยู่ก็ตาม
ตามที่แสดงโดยสถิติ ‘In & Out Of The Money’ ทั่วโลกของ IntoTheBlock พบว่า ผู้ถือ SHIB ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในภาวะกำไรที่ระดับราคานี้ ซึ่งแตกต่างอย่างมากกับการเคลื่อนไหวของราคา SHIB ในปี 2023 ที่เมตริก ‘In The Money’ อยู่ที่ระดับ 10% ถึง 40% ตลอดทั้งปี
SHIB ได้รับความนิยมอย่างมากตั้งแต่ปี 2021 เมื่อมันถูกขนานนามว่าเป็น “ Dogecoin Killer” และเคยทำจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 0.00008616 ดอลลาร์แม้จะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและความสำเร็จอย่างมากในตลาดเหรียญมีมเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ SHIB ก็ยังไม่สามารถกลับไปแตะจุดสูงสุดนี้ได้อีกครั้ง
ที่มา: dailycoin