<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักวิเคราะห์ชี้กราฟ BTC ทำทรงคล้ายช่วงเปิดตัวกองทุน Spot BTC ETF ส่งสัญญาณขาขึ้นเตรียมคัมแบค  

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

กราฟราคา  Bitcoin มีลักษณะคล้ายกับ ตอนที่มีการเปิดตัวกองทุน Spot Bitcoin ETFs ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งบ่งบอกถึงแนวโน้มการ Breakout ของราคาในเร็ว ๆ นี้ แม้ว่ากราฟคราวนี้จะมีความแตกต่างบางประการก็ตาม

ราคา Bitcoin ที่ลดลงล่าสุด มีความคล้ายคลึงบางประการกับช่วงที่ราคาเคลื่อนไหว หลังการเปิดตัวกองทุน Bitcoin ETF ครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนมกราคม

ซึ่งนักเทรดวิเคราะห์ว่า สิ่งนี้อาจบ่งชี้ถึงแนวโน้มราคา Bitcoin ที่จะปรับตัวขึ้นใน “สัปดาห์หน้าหรือประมาณนั้น”

ก่อนหน้านี้กองทุน Spot Bitcoin ETF ได้เปิดตัวในฮ่องกงเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 30 เมษายน นับตั้งแต่นั้นมามีมูลค่าการไหลเข้าของเงินลงทุนสุทธิ 217 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ราคาของ Bitcoin กลับลดลงเกือบ 7% นับตั้งแต่เปิดตัว อ้างอิงตามข้อมูลของ CoinMarketCap

อย่างไรก็ตามผู้ร่วมก่อตั้ง WhereAt Social และนักเทรดคริปโตเคอเรนซี Quinten Francois ชี้ให้เห็นว่า พฤติกรรมของราคา Bitcoin ในปัจจุบัน มีความคล้ายคลึงกับช่วงที่เปิดตัวกองทุน Spot Bitcoin ETF ครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา โดยในช่วงนั้น ราคา Bitcoin ปรับตัวลง 14% ภายใน 12 วัน หลังการเปิดตัว ก่อนที่ราคา Bitcoin จะดีดตัวพุ่งขึ้นกว่า 7% ในอีก 7 วันถัดมา

ตามที่ Quinten Francois โพสต์เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม “หากราคา Bitcoin ยังคงเดินตามแนวโน้มเดิม ราคาอาจปรับตัวขึ้นใน “สัปดาห์หน้าหรือประมาณนั้น”

นักเทรดคริปโตนามแฝง  StockLizard กล่าวเสริมด้วยว่า “การปรับฐานราคา (Price Correction) นั้น เกิดขึ้นเป็นปกติ และครั้งนี้ถือว่า เป็นการปรับฐานที่จำเป็นสำหรับ Bitcoin”

อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างที่สำคัญบางประการ ระหว่างการเปิดตัวกองทุน Bitcoin ETF  ในสองแห่งนี้ แม้ว่ากองทุน Bitcoin ETF ในฮ่องกงจะมีเงินไหลเข้าสุทธิ มูลค่า 217 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่เปิดตัว แต่กองทุน Bitcoin ETF ในสหรัฐอเมริกา กลับมีเงินไหลออก มูลค่า 794 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน

นอกจากนี้ กองทุน Bitcoin ETF ที่เปิดตัวในฮ่องกง ยังมีปริมาณการซื้อขายในวันแรกเพียง 12.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่า แตกต่างอย่างมากจากปริมาณการซื้อขายในวันแรกของกองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐอเมริกา ที่มีมูลค่าสูงถึง 4.6 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : cointelegraph