ตามประกาศล่าสุด เครือข่าย Shibarium ซึ่งเป็นโซลูชัน layer-2 ของ Shiba Inu ได้เสร็จสิ้นกระบวนการ Hard Fork อย่างเป็นทางการแล้ว
การ Hard Fork ใหม่นี้ คาดว่าจะช่วยให้ Shibarium ทำธุรกรรมที่รวดเร็วฉับไว พร้อมทั้งค่าธรรมเนียมแก๊สที่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้
การ Hard Fork คือการอัปเกรดซอฟต์แวร์ครั้งใหญ่ที่ส่งผลให้บล็อกเชนถูกแบ่งแยกออกเป็นสองเส้นทางที่แยกออกจากกัน โดยปกติการ Hard Fork มักมีจุดประสงค์เพื่อ สร้างการเปลี่ยนแปลงซอฟต์แวร์ที่สำคัญ ที่ไม่สามารถใช้งานร่วมกับเส้นทางของระบบเดิมได้
เมื่อเดือนที่แล้ว ทีมพัฒนา Shiba Inu ได้ประกาศว่า การ Hard Fork มีความจำเป็นเพื่อปลดล็อค “ความสามารถขั้นต่อไป” ของเครือข่าย Shiba Inu ซึ่งการอัปเกรดนี้จำเป็นต่อการมอบคุณค่าใหม่ ๆ และช่วยให้ การใช้งานร่วมกับบล็อกเชน Shibarium ทำได้ง่ายยิ่งขึ้น
การ Hard Fork ครั้งนี้ถือเป็นการตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องของชุมชน Shiba Inu โดยประเด็นสำคัญที่ผู้ใช้งานของโซลูชัน layer-2 อยากเห็นในการปรับปรุง คือในเรื่องการใช้งาน (usability) และ ประสิทธิภาพ (performance) ของระบบ
ทีมพัฒนา Shiba Inu ระบุว่า การอัปเกรดครั้งใหม่นี้ มีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่าแพลตฟอร์มยังคงเป็น “ระบบที่ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงได้และมีราคาเหมาะสม”
ความปลอดภัยก็เป็นอีกประเด็นสำคัญ ระหว่างการดำเนินการ Hard Fork เช่นกัน ซึ่งการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่ทุกคนรอคอย คาดว่า จะช่วยยกระดับความปลอดภัย และความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์ม Shibarium ให้ดียิ่งขึ้น
ราคาของ Shiba Inu (SHIB) เพิ่มขึ้น 6.2% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อ้างอิงตามข้อมูลของ CoinGecko
ที่มา : u.today