รายงานล่าสุดได้ออกมาท้าทายความเชื่อที่ว่าการขุด Bitcoin เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม หลัง Dennis Porter ซีอีโอของ Satoshi Action Fund ได้ออกมาเปิดเผยว่าการขุด Bitcoin ในปัจจุบันเป็นเครื่องมือที่จะสามารถปรับปรุงสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นได้
โดยวิจัยล่าสุดที่เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญ Murray A. Rudd, Matthew Jones, Daniel Sechrest และ Daniel Batten ได้ออกมาเปิดเผยประโยชน์สำคัญจากการขุด Bitcoin สองประการคือการชำระล้างสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น และการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้เติบโต
ในรายงานได้เผยว่า การขุด Bitcoin ในสหรัฐฯ เพียง 1% ช่วยลดก๊าซมีเทนที่ระบายได้เทียบเท่ากับการขับรถด้วยน้ำมันเบนซินถึง 9 9 พันล้านไมล์ ในขณะที่สามารถแปลงพลังงานที่มีค่าให้เป็นสินทรัพย์ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ การศึกษานี้ได้เจาะลึกว่าการขุด Bitcoin เพียง 1.14 เมกะวัตต์ (MW) ก็สามารถลดก๊าซมีเทนได้ถึง 2,187 เมตริกตันต่อปี ซึ่งเทียบได้กับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการขับรถระยะทางกว่า 156 ล้านไมล์ในแต่ละปี
ด้วยกลยุทธ์การลดก๊าซมีเทนด้วยการขุด Bitcoin ทำให้อุตสาหกรรมการขุดมีแรงจูงใจการสร้างเงินเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น และไม่เพียงแต่ต่อสู้กับการปล่อยก๊าซมีเทนเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมแบบจำลองทางการเงินสำหรับการผลิตพลังงานอีกด้วย
และการศึกษานี้ ทำให้การใช้มีเทนจากหลุมฝังกลบ มาเป็นพลังงานในการทำเหมือง Bitcoin ได้ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ของเสียที่เป็นอันตรายให้เป็นแหล่งพลังงานที่สะอาดและสร้างกำไรได้ และเน้นย้ำถึงความเป็นไปได้ของการบูรณาการการขุด Bitcoin เข้ากับโครงการพลังงานจากมีเทน
อย่างไรก็ตาม เส้นทางสู่การนำโมเดลนี้ไปใช้อย่างกว้างขวางนั้น ยังคงเต็มไปด้วยความท้าทายด้วยความผันผวนของราคา Bitcoin และกฎระเบียบในประเทศต่างๆ ที่เข้มงวด แต่แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้อยู่ข้างหน้า งานวิจัยนี้ได้เสนอแนวทางการขุด Bitcoin ที่น่าสนใจ และสามารถแปลงก๊าซเรือนกระจกให้กลายเป็นสินทรัพย์ที่มีศักยภาพอย่าง Bitcoin ได้
ที่มา: Cryptopolitan