ในขณะที่ช่วงฤดูร้อนของปี 2024 ได้มาถึงแล้ว บทบาทของสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) ซึ่งอยู่ในตำแหน่งผู้เล่นหลักของตลาดคริปโต ก็ยิ่งเป็นที่ถกเถียงกันมากขึ้นว่าเหรียญไหนที่จะให้ผลตอบแทนดีกว่ากัน ในขณะที่ Bitcoin เริ่มถูกมองว่าเป็นทองคำดิจิทัลมากขึ้น ท่ามกลางช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน
บทความนี้ชี้ให้เห็นว่า Bitcoin ในฐานะ “ทองคำดิจิทัล” แสดงให้เห็นถึงความผันผวนของราคาที่ลดลง หลังจากเหตุการณ์ halving ซึ่งตามข้อมูลจาก Fidelity ระบุว่า ปัจจุบันความผันผวนของราคา Bitcoin ต่ำกว่า บริษัทหลายแห่งที่อยู่ในดัชนีหุ้น S&P; 500 (ดัชนีหุ้นที่ประกอบด้วยบริษัทขนาดใหญ่ 500 แห่งของสหรัฐอเมริกา)
ด้าน Ethereum ยังคงเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ตัวอย่างเช่น การอัปเกรดระบบล่าสุดอย่าง Dencun ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดค่าธรรมเนียมการใช้งาน (gas fees) และเพิ่มประสิทธิภาพการปรับขนาดในการรองรับธุรกรรมให้กับเครือข่าย อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้ออีกครั้ง ซึ่งแตกต่างจากแนวโน้มภาวะเงินฝืด ที่เกิดขึ้นหลังจากการ Merge ของ Ethereum ในปี 2022
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลให้ความผันผวนของราคา Ethereum (ETH) เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความผันผวนโดยนัย (implied volatility) ของ ETH ยังคงสูงกว่า Bitcoin (BTC) อย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าภาพรวมของตลาดคริปโตเคอเรนซีจะเริ่มมีแนวโน้มทรงตัวแล้วก็ตาม
Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังเติบโต ส่วน Ethereum ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรม ทาง Finbold จึงได้ค้นหาข้อมูลเชิงลึกจาก ChatGPT โมเดล AI ขั้นสูงของ OpenAI เพื่อทำการพิจารณาว่า เหรียญคริปโตตัวไหนจะให้ผลตอบแทนได้ดีกว่ากันในอนาคต
ตามข้อมูลของ ChatGPT ระบุว่า การตัดสินใจส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การลงทุนของแต่ละบุคคล และการยอมรับความเสี่ยง โดยทั่วไปแล้ว Bitcoin จะเหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่แสวงหาความมั่นคง และการจัดเก็บมูลค่าที่ค่อนข้างปลอดภัย คล้ายกับทองคำดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ซึ่งสามารถดึงดูดคนที่ไม่ชอบความเสี่ยงหรือผู้ที่เพิ่งเริ่มลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล
ในทางกลับกัน Ethereum ขับเคลื่อนแพลตฟอร์มสำหรับแอปพลิเคชันแบบ decentralized และเป็นผู้เล่นสำคัญในเทคโนโลยี บล็อกเชน ซึ่งนักลงทุนที่เชื่อมั่นในอนาคตของเทคโนโลยีเหล่านี้อาจจะเลือกลงทุนใน Ethereum มากกว่า
โอกาสในการลงทุน ChatGPT Ethereum
แม้ว่า Bitcoin จะมอบเสถียรภาพ และศักยภาพในการเติบโตที่เพิ่มขึ้น แต่ Ethereum ก็เป็นประตูสู่ระบบนิเวศบล็อกเชนที่สามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น และอาจให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า
สุดท้ายแล้ว การกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ทั้ง BTC และ ETH อาจเป็นหนทางหนึ่งในการบริหารความเสี่ยง และอาจได้รับประโยชน์จากการเติบโตของสกุลเงินดิจิทัลหลักทั้งสองสกุลได้
ประสิทธิภาพราคาล่าสุดของ Bitcoin และ ETH
ในปี 2024 ตามผลตอบแทนแบบปีต่อปีระหว่าง Bitcoin และ ETH ได้นำเสนอความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
โดยผลตอบแทนจากการลงทุนใน Bitcoin มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดย YTD เพิ่มขึ้น 45.16% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงธรรมชาติที่มีความผันผวน แต่มีการเติบโตสูง ซึ่งราคาปัจจุบันของ Bitcoin ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 61,200 ดอลลาร์
ในทางกลับกัน YTD ของ ETH เพิ่มขึ้นเพียง 28% โดยมีราคาซื้อขายในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2,921 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม การที่นักลงทุนจะเลือกลงทุน ระหว่าง Bitcoin กับ Ethereum ควรจะสอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนส่วนบุคคล , ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และความสนใจในแง่มุมทางเทคโนโลยีของเหรียญคริปโตนั้น
แม้ว่า Bitcoin จะมอบเสถียรภาพ และศักยภาพในการเติบโตที่เพิ่มขึ้น แต่ Ethereum ก็เป็นประตูสู่ระบบนิเวศบล็อกเชนที่พัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น และผลตอบแทนที่อาจสูงกว่า
คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ที่มา : finbold