<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ครบรอบ 2 ปี : วิกฤตการณ์เหรียญ Terra (LUNA) กับราคาที่ร่วงจาก $120 แตะ $0 ภายในวันเดียว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เหตุการณ์นี้ถือเป็นอีกหนึ่งวันอันเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของตลาดคริปโต เนื่องจากเหรียญขวัญใจนักลงทุนอย่าง Terra ($LUNA) ได้ทรุดตัวลงอย่างฉับพลันในวันที่ 15 พฤษภาคม 2022 ซึ่งมูลค่าของเหรียญได้ลดลงถึง 99.999% จากราคา $100 เพียงเหลือเพียง $0.002 ภายในวันเดียวเท่านั้น 

เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่สั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนคริปโตเท่านั้น แต่ยังนำมาซึ่งการตรวจสอบด้านกฎระเบียบอย่างเข้มงวดต่อตลาดคริปโตเคอร์เรนซี

วิกฤติการเทขายเหรียญ LUNA ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการคริปโต ส่งผลให้นักลงทุนหลายหมื่นคนถือที่เหรียญ LUNA อยู่นั้นไร้ค่า โดยมูลค่าความเสียหายทั้งหมดของนักลงทุนจากเหรียญนี้คิดเป็นตัวเลขมหาศาลกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 

ทำไม Luna ถึงพังทลายลง ?

LUNA ถูกออกแบบมาเพื่อให้ช่วยลดความผันผวนของเหรียญ Stablecoin อย่าง UST (TerraUSD) หากมองย้อนกลับไป สิ่งนี้ถือเป็นจุดจบของโปรเจกต์นี้เลยทีเดียว เนื่องจากการใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ผันผวนในการการันตีความ “คงที่” ของ Stablecoin ทำให้ UST ไม่สามารถรักษาระดับราคาที่ใกล้เคียงกับเงินดอลลาร์สหรัฐเอาไว้ได้  อีกทั้ง UST เองก็ไม่มีสินทรัพย์อื่นมาหนุนหลังรองรับมูลค่าของเหรียญอีกด้วย

หลังจากนั้นไม่นาน UST สูญเสียมูลค่าไป 40% ส่วน LUNA ก็ร่วงดิ่งลงเหวอย่างรุนแรงและไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้ แม้จะมีนักเทรดขาลงบางส่วนที่สามารถทำกำไรจากความผันผวนอย่างหนักของ LUNA (ปัจจุบันคือ LUNC) แต่ก็เพียงเท่านั้น มีรายงานว่านักลงทุนจำนวนมากสูญเงินไปเป็นแสนดอลลาร์ หรือแม้กระทั่งเงินออมทั้งชีวิตจากโทเคนดิจิทัลตัวนี้ มันเป็นภาพที่เลวร้ายอย่างยิ่ง

เกิดอะไรขึ้นกับผู้ก่อตั้ง Terra ?

นาย Do Kwon ผู้ก่อตั้งโปรเจค Terra ซึ่งเป็นชาวเกาหลีใต้ ได้กลายเป็นผู้ร้ายหลบหนีอยู่หลายเดือน ก่อนที่จะถูกจับกุมตัวได้ในที่สุดที่สนามบินนานาชาติ Montenegro จากนั้นจึงเกิดการแย่งชิงตัวการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ทั้งทางด้านเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาต่างต้องการตัวเขาเพื่อให้เขามารับโทษสำหรับคดีอาชญากรรมทางการเงินให้จงได้  ท้ายที่สุดแล้วก็มีการตัดสินใจว่าจะส่งตัวเขาไปยังเกาหลีใต้ และเขาต้องเผชิญหน้ากับการติดคุกเป็นเวลานานหลายปี

ก่อนที่จะถูกจับกุม Do Kwon พยายามที่จะกอบกู้ชื่อเสียงให้กับ Terra  โดยเขาได้เปิดตัวเหรียญคริปโตอีกตัวหนึ่งเพื่อชดเชยให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเหรียญที่ออกมานี้ยังคงใช้ชื่อว่า LUNA เช่นเดิม ส่วนเหรียญเดิมนั้นได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น LUNA Classic (LUNC) แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรสามารถช่วยเหลือเหรียญที่กำลังจะล่มสลายได้ และปัจจุบันทั้งสองเหรียญต่างก็แทบไม่มีค่าอะไร

สรุป

วิกฤติการณ์ Luna ที่เกิดขึ้น สะท้อนถึงความเปราะบางของตลาด Altcoin ในขณะที่ Bitcoin มีความมั่นคงค่อนข้างคงที่ตลอดเวลา ส่วน altcoin นั้นโดยรวมแล้วเป็นกลุ่มที่ผสมผสานกัน เนื่องมีเหรียญจำนวนมากในกลุ่ม Altcoin ที่ล้มเหลว นอกจากนี้ LUNA ถูกบดบังด้วยเรื่องอื้อฉาวที่ใหญ่กว่าในปีเดียวกันอย่างเหตุการณ์ทุจริตของกระดานเทรดคริปโต FTX  

เหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้ Do Kwon และอดีต CEO ของ FTX อย่าง Sam Bankman-Fried ยังคงเป็นศัตรูอันดับ 1 และ 2 ในวงการคริปโตเคอร์เรนซี ที่คอยเตือนให้นักลงทุนระมัดระวังในการลงทุนกับเหรียญคริปโตหรือกระดานเทรดที่มีความเสี่ยงสูง และเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้ามาคุมเข้มด้านกฎระเบียบของรัฐบาลในประเทศต่าง ๆ

ที่มา:Zycrypto