‘BitQuant’ นักเทรดคริปโตเคอร์เรนซีชื่อดังผู้ที่สามารถทำนายราคา All Time High หรือจุดสูงสุดตลอดกาลของ Bitcoin ในช่วงก่อนเหตุการณ์ halving ได้อย่างแม่นยำ เพิ่งออกมาเปิดเผยคาดการณ์ใหม่ว่าราคาของ BTC กำลังเตรียมพุ่งทะยานไปแตะระดับ $95,000 “ในช่วงขาขึ้นรอบถัดไป”
นักวิเคราะห์ BitQuant ได้ออกมาตอบกลับนักเทรดคริปโตเคอร์เรนซีชื่อดังอีกคนหนึ่งบนโซเชียลมีเดีย X (เดิมชื่อ Twitter) โดยเสริมว่าปัจจุบันความเคลื่อนไหวของตลาดคริปโตยังไม่แน่นอน และระบุว่านักลงทุนที่ “ไม่สามารถทำใจร่ม ๆ และรอให้ Bitcoin ทำตามที่คาดการณ์ไว้ได้นั้น” อาจจะดีกว่าถ้าพวกเขาเหล่านั้นออกจากตลาดไปก่อน “เพื่อหลีกเลี่ยงความทรมานทางด้านจิตใจ”
นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ “จะมีความเจ็บปวดมากมายสำหรับผู้ที่จิตใจอ่อนแอ ” ซึ่งเขาหมายถึงผู้ที่มีประสบการณ์น้อยในโลกการลงทุน
มาดูกันต่อที่ Milkybulll Crypto นักเทรดที่เป็นจุดเริ่มต้นของบทสนทนาในครั้งนี้ ซึ่งเขาได้แชร์กราฟราคากับผู้ติดตามมากกว่า 60,000 คนบน X โดยเขาวิเคราะห์ว่า ปัจจุบันกราฟรายสัปดาห์ของ Bitcoin กำลังทำรูปแบบ “Cup and Handle” ก่อนที่เขาจะเสริมว่า “หากราคา Bitcoin ทะลุกรอบราคาสีเหลืองไปได้ จะส่งผลให้ราคา Bitcoin พุ่งทะยานขึ้นไปตามรูปแบบกราฟที่เขาแชร์ด้านขวามือ”
รูปแบบราคา “cup and handle” บนกราฟราคาของสินทรัพย์เป็นหนึ่งในสัญญาณทางเทคนิค ที่ก่อตัวเป็นรูปถ้วยตามตัวอักษร “u” และตามด้วยส่วนที่เป็นหูแก้วอยู่ด้านขวามือ หรือลักษณะโดยรวมจะคล้ายกับ “ถ้วยจิบกาแฟ” ซึ่งหลังจากเกิดแพทเทิร์นนี้ ราคาจะมีการเคลื่อนไหวลดลงก่อนที่จะมีการพุ่งทะยานขึ้นอย่างรุนแรง
แพทเทิร์นนี้ค้นพบครั้งแรกโดย William J. O’Neil นักวิเคราะห์ทางเทคนิคชาวอเมริกัน ตามข้อมูลของ Investopedia ซึ่งระบุว่าแพทเทิร์นนี้ถูกตีความว่าเป็นสัญญาณของตลาดกระทิง หรือสภาวะขาขึ้น
อีกทั้ง การคาดการณ์ราคาดังกล่าวยังได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่นักวิเคราะห์คริปโตเคอร์เรนซีชื่อดังอีกรายหนึ่งอย่าง Rekt Capital ได้ออกมาวิเคราะห์ว่า ราคาของ Bitcoin หลังจากการ Halving นั้นได้หลุดพ้นจาก “โซนอันตราย” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และราคาของมันก็ได้ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากแนวรับ ‘Re-Accumulation Range Low support’ หรือหมายถึงระดับราคาต่ำสุดในช่วงของการสะสมใหม่
Rekt Capital ยังระบุอีกว่า ในเดือนนี้และเดือนหน้า อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ ไม่ค่อยน่าตื่นเต้นสำหรับ Bitcoin แต่หากผ่านช่วงเวลาดังกล่าวไป BTC จะเข้าสู่ช่วงขาขึ้นแบบก้าวกระโดด
ปัจจัยที่อาจมีผลกับเรื่องนี้คือ ล่าสุดสถาบันการเงินขนาดใหญ่กำลังทยอยเข้าสู่ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีมากขึ้น โดยรัฐวิสคอนซินของสหรัฐฯ เพิ่งจะกลายเป็นหน่วยงานของรัฐแห่งแรกในประเทศ ที่เปิดเผยว่าพวกเขาได้ลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำ โดยได้ซื้อหุ้น BlackRock’s iShares Bitcoin Trust (IBIT) จำนวน 94,562 หุ้น ตีเป็นมูลค่าเกือบ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสแรกของปี 2024
การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้รัฐวิสคอนซินเข้าร่วมกับบรรดายักษ์ใหญ่ของ Wall Street หลายราย รวมไปถึง JPMorgan Chase และ Wells Fargo ผ่านการเปิดเผยการมี Bitcoin ด้วยการลงทุนในกองทุน Bitcoin ETF ตามการยื่นแบบฟอร์มที่มีชื่อว่า ‘13F’
พร้อมกันนี้ JPMorgan ยังเปิดเผยว่าบริษัทได้ทำการลงทุนมูลค่า 731,246 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในกองทุน IBIT ของ BlackRock, BITB ของ Bitwise, FBTC ของ Fidelity และ GBTC ของ Grayscale ในขณะที่ Wells Fargo เปิดเผยว่ามีการถือครองกองทุน GBTC มูลค่า 141,817 ดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมีบริษัทอื่นๆ อย่าง BNP Paribas และ BNY Mellon ที่ได้เปิดเผยข้อมูลการลงทุนเช่นเดียวกัน
ที่มา:cryptoglobe