<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Ethereum ถูกถอนออกจากเว็บเทรดร่วม 3,000 ล้านดอลลาร์หลังจาก ETF ได้รับไฟเขียว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Ethereum (ETH) มูลค่ากว่า 3,000 ล้านดอลลาร์ได้ถูกถอนออกจากเว็บเทรด crypto แบบรวมศูนย์นับตั้งแต่การอนุมัติ Spot Ethereum ETF ในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ซึ่งส่งสัญญาณถึงอุปทานที่อาจเกิดภาวะขาดแคลน

จำนวน Ethereum ในเว็บเทรดลดลงประมาณ 797,000 ETH ระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคมถึง 2 มิถุนายน ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 3,020 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก CryptoQuant

การที่ Ethereum มีจำนวนหลงเหลือบนเว็บเทรดน้อยลงอาจหมายถึงมีเหรียญสำหรับที่เหลือในการขายน้อยลง เนื่องจากนักลงทุนย้ายเหรียญของตัวเองไปเก็บไว้เองเพื่อจุดประสงค์อื่นนอกเหนือจากการขายในทันที

ข้อมูล Glassnode ที่แชร์โดยนักวิเคราะห์ Leon Waidmann แสดงให้เห็นว่าเปอร์เซ็นต์ของอุปทาน Ethereum หมุนเวียนที่ถืออยู่ในเว็บเทรดก็อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบหลายปีที่เพียง 10.6%

Ethereum ETF กำลังปูทางให้เหรียญมุ่งสู่ All Time High

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Eric Balchunas นักวิเคราะห์ของ Bloomberg ETF กล่าวถึง Ethereum ETF ว่ามี “ความเป็นไปได้ที่อนุมัติอย่างถูกกฎหมาย” ในการเปิดตัวภายในปลายเดือนมิถุนายน

นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า Ethereum สามารถทำลายสถิติจุด all time high เก่าในเดือนพฤศจิกายนปี 2021 ที่ $4,870 ได้เมื่อ Ethereum ETF เริ่มเปิดให้มีการซื้อขายเนื่องจากแรงกดดันด้านอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคล้ายกับ Bitcoin หลังจากที่ได้มีการเปิดตัวให้ซื้อขาย Spot Bitcoin ETF ในเดือนมกราคม

Ethereum อาจได้อานิงส์เพิ่มเติมจากแรงกดดันด้านอุปสงค์มากกว่า Bitcoin เนื่องจากไม่มี “แรงกดดันในการขายเชิงโครงสร้าง” ในสเกลเดียวกันตามที่ Michael Nadeau นักวิเคราะห์คริปโตกล่าวในรายงานเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม

ตัวอย่างเช่น นักขุด Bitcoin ถูกบังคับให้ขาย Bitcoin เป็นครั้งคราวเพื่อมาจุนเจือค่าใช้จ่ายในการขุด ในขณะที่บรรดาผู้ตรวจสอบความถูกต้องของ Ethereum ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการดังกล่าวเฉกเช่นนักขุด Bitcoin ทำ

อย่างไรก็ตามยังมีข้อกังวลว่า Ethereum Trust (ETHE) ของ Grayscale ซึ่งจัดการกองทุนมูลค่า 11,000 ล้านดอลลาร์ อาจมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของราคาของ Ethereum หากมีการเดินตามรอย Grayscale Bitcoin Trust (GBTC) ซึ่งมีการไหลออกของเงินลงทุน 6,500 ล้านดอลลาร์เพียงแค่เดือนแรกหลังจากได้รับการอนุมัติ

ที่มา : Cointelegraph