<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เผยปัจจัยหนุนสำคัญที่จะทำให้ราคา Ethereum (ETH) พุ่งขึ้นในตลาดกระทิงรอบต่อไป

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ดูเหมือนว่าในตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญต่างๆ จะออกมาคาดการณ์ว่า Ethereum (ETH) มีปัจจัยพื้นฐานที่ช่วยส่งเสริมให้ราคาเหรียญเพิ่มขึ้นในตลาดกระทิงครั้งต่อไป แม้ว่าราคาปัจจุบันจะอยู่ต่ำกว่า 4,000 ดอลลาร์ แต่ด้วยโครงสร้างผลตอบแทนที่ดี และจำนวนโทเค็นที่ถูกล็อกจำนวนมาก อาจช่วยผลักดันราคา ETH ให้สูงได้ในเร็วๆ นี้

พื้นฐานที่แข็งแกร่ง

โดยในตอนนี้ Ethereum กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ หลังจากที่ Spot ETF ได้รับการอนุมัติ และบทบาทสำคัญในเครือข่าย Layer 2 รวมถึงสภาพคล่องจำนวนมาก ทำให้นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าราคา ETH จะเพิ่มขึ้นได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

เจ้ามือหันมาถือ Ethereum มากขึ้น

นอกเหนือจากพื้นฐานที่ดีแล้ว เจ้ามือก็ได้หันมาสะสม Ethereum มากขึ้นเช่นเดียวกัน โดยได้เริ่มสะสมมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเหรียญส่วนใหญ่ถูก Staking เอาไว้ใน Smart contract มากกว่า 45.7 ล้านโทเค็น

ซึ่งด้วยกระแสที่เพิ่มขึ้นนี้ ทำให้มี Ethereum ไหลออกจากกระดานเทรดมากถึง 800,000 ETH หลัง Spot ETF ได้รับการอนุมัติ ในขณะที่มีนักลงทุนกว่า 97% ได้ Stake เหรียญเอาไว้เพื่อการลงทุนของพวกเขา

อุปทาน Ethereum ที่ลดลง

และท่ามกลางกระแส Staking Ethereum จำนวนมาก และการดึงดูดเงินฝากใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปัจจุบันมี Wallet มากกว่า 1 ล้านบัญชีหันมา Staking Ethereum เพื่อรับผลตอบแทนและเข้ามาตรวจสอบเครือข่าย

สิ่งนี้ได้ผลักดันให้จำนวนการสร้างโทเค็นใหม่ลดลงเหลือเพียง 20 ล้านโทเค็น ในขณะที่มีการเผาโทเค็นอย่างต่อเนื่องจากค่าธรรมเนียม ซึ่งส่งผลให้อุปทานของ ETH อาจลดลงถึง 1.36% ต่อปี อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการลดลงดังกล่าวยังคงไม่มีความไม่แน่นอน และ ETH อาจก็เกิดภาวะเงินเฟ้ออีกครั้งในช่วงสั้นๆ ได้ในอนาคต

ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญต่างคาดการณ์ว่าราคา Ethereum อาจมีการเคลื่อนตัวคล้ายกับ Bitcoin โดยอิงจากการใช้งานและความต้องการในการถือครอง โดยนักวิเคราะห์ราคาอย่าง Cactus ก็ได้คาดการณ์ว่าราคา ETH จะพุ่งขึ้นไปแตะ 6,000 ดอลลาร์ได้ภายในสิ้นเดือนนี้หลังจากที่ ETH ETF ได้มีการเปิดตัว

อย่างไรก็ตามแม้ว่ากระแสของ Ethereum ETF อาจพุ่งขึ้นไปเหมือนกับ Bitcoin ETF มีกระแสเงินเข้ามากกว่า 900 ล้านดอลลาร์ในวันเดียว แต่มันก็มีโอกาสที่จะลดลงอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ และผู้ลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ

ที่มา: Cryptopolitan