เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา คุณทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้รับเชิญเข้าร่วมการเสวนาในงาน AP Thailand presents CREATIVE TALK CONFERENCE 2024 “Creative Generation” ซึ่งจัดขึ้น ณ BITEC โดยเขาได้กล่าวถึงประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจในหัวข้อ “Essential Skills for the Future of Thailand”
ในบางช่วงของการเสวนา คุณทิมได้เปิดเผยเทคนิคการลงทุนใน Ethereum และ Blockchain โดยเปรียบเทียบการลงทุนกับการซื้อในตอนที่ราคาถูกและขายในตอนที่ราคาแพง
“เทคนิคในการเล่นหุ้นของผมคือ ซื้อแค่ประมาณเข่า ขายแค่ไหล่ แต่ว่าไม่ได้ถูกที่รองเท้า แล้วแพงที่ผมคุณนะ”
คุณทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อธิบายถึงวิธีการดูกราฟก่อนเข้าลงทุนด้วยว่า
“แล้วคุณจะรู้ได้ไงว่าเข้าซื้อตอนไหน ผมดูย้อนหลัง 5 ปี เวลาดูตัวเลข ดู Blockchain ดู Ethereum ดูทองคำ ดูอะไรทั้งหลาย เขาจะดูย้อนหลังไป 5 ปี ซึ่งตอนนี้หุ้นไทย มัน ‘เข่า’ อยู่ แต่ว่ายังหา fundamental ไม่เจอ ส่วนทองคำใน รอบ 10 ปีนี่ หัว แล้ว ราคา 42,000 บาท คือไปไกลมากแล้ว น้ำมันก็คืออยู่ประมาณสะดืออยู่ อะไรประมาณนี้ กลาง ๆ อยู่”
นอกจากนี้ คุณทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กล่าวถึงความเชื่อเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของโลก และกลยุทธ์การลงทุนสำหรับการซื้อตอนราคาตกและขายตอนราคาขึ้นว่า “คือผมเชื่อว่าทุก ๆ 7 ปี โลกมันจะพลิก มันจะเกิดอะไรซักอย่าง เดี๋ยวก็มีสงคราม เดี๋ยวก็มี hamburger crisis เดี๋ยวก็มีน้ำท่วมหนัก เดี๋ยวก็มีอะไรซักอย่างหนึ่ง เดี๋ยวก็มีโควิดอะไรซักอย่าง เพราะฉะนั้นถ้าเรามี เราคอยจับตาดูไว้ แล้วใจเย็นพอ พอจังหวะที่มัน ‘บึ้ม’ แล้วเราเข้าได้ถูก ตอนที่มันอยู่ที่เข่าเนี่ย แล้วทิ้งไว้แล้วมันก็เติบโต ถึงเวลาแล้วมันก็จะมา ตามนั้น ”
“แต่ตอนนี้หุ้นไทยก็น่าเป็นห่วงครับ เพราะว่า ตั้งแต่เมษาถึงเมษา ก็ Marketcap หายไป 2 ล้านล้าน เท่าที่ผมเช็คตัวเลขดู อันนี้มันก็แสดงให้เห็นถึงคำว่า เศรษฐกิจตกขบวน ที่ไม่ได้เป็นเฉพาะพี่น้องประชาชน พ่อค้า แม่ขาย แต่มันเริ่มลามขึ้นมาถึงชนชั้นกลางด้วย แล้วมันก็มีปัญหากับความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจไทย ”
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การซื้อตอนราคาตกและขายตอนราคาขึ้นนั้นก็ยังมีความเสี่ยง เนื่องจากนักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์นี้ต้องมีความอดทนและใจเย็น รอคอยโอกาสในการเข้าซื้อเมื่อราคาสินทรัพย์อยู่ในระดับต่ำ และขายทำกำไรเมื่อราคาสินทรัพย์นั้น ๆ กลับมาสูงขึ้น ซึ่งนักลงทุนจำเป็นต้องวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของสินทรัพย์อย่างละเอียด เพื่อประเมินศักยภาพการเติบโตในอนาคต ก่อนตัดสินใจลงทุนด้วยความรอบคอบ
ที่มา : Facebook