<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Trump หรือ Biden? : ทำไมคริปโตถึงเป็นตัวตัดสินอนาคตของ “ประธานาธิบดีสหรัฐฯ” คนใหม่

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เหลือเวลาอีกเพียง 144 วันก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน เพื่อเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา ข้อมูลล่าสุดจากผู้ทำนายผลการเลือกตั้งที่ เว็บไซต์ชื่อดังอย่าง ‘538’ ของ ABC News รายงานว่าการแข่งขันยังอยู่ในระดับ “สูสี”

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดการจำลองผลการเลือกตั้งของเว็บไซต์ชื่อดังรายนี้ ทำนายว่า Joe Biden ผู้ดำรงตำแหน่งคนปัจจุบันจาก ‘พรรคเดโมแครต’ จะชนะ ด้วยผลคะแนน 53 จาก 100 ส่วน ในขณะที่ Donald Trump ผู้ท้าชิงจาก ‘พรรครีพับลิกัน’ คาดว่าจะชนะเสียงส่วนที่เหลือ 47 ส่วน หมายเหตุ–ผลลัพธ์ดังกล่าวเป็นแค่เพียงการคำนวณทางหลักสถิติจากเว็บไซต์ 538 ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากการคาดการณ์ผลการเลือกตั้งในสหรัฐอเมริกาที่แม่นยำ

เนื่องด้วยฐานเสียงของทั้งสองพรรคที่แข็งแกร่ง และผลลัพธ์ที่ออกมามีความใกล้เคียงกันมาก เป็นไปได้สูงว่าปัจจัยขนาดเล็ก ๆ อาจกลายเป็นตัวชี้ขาดผลการเลือกตั้งในครั้งนี้  

การโต้วาทีระหว่างผู้สมัครทั้งสองที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 27 มิถุนายน อาจกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการชี้ชะตา หากผู้ใดผู้หนึ่งทำงานผลงานได้ดีหรือไม่ดีเป็นพิเศษ โดยปัจจัยสำคัญที่ชุมชนคริปโตควรจับตามองก็คือ…เรื่อง ‘คริปโต’ นั่นเอง

ผลสำรวจล่าสุดจาก Harris Interactive ที่ได้รับการสนับสนุนโดย Grayscale บ่งชี้ว่าในปี 2024 ทั้งสองพรรคการเมืองจะไม่สามารถเพิกเฉยต่อนโยบายเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีและ Bitcoin ได้ เพราะว่าปัจจุบัน ‘ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง’ กำลังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

เหตุผลที่ ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ให้ความสำคัญอาจรวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่าในเดือนมกราคม ก.ล.ต.สหรัฐฯ (SEC) ได้อนุมัติให้กองทุน Bitcoin ETF 11 กองทุน ทำให้ผู้ที่มีบำนาญ ในแผน 401(k) และการลงทุนในสถาบันอื่น ๆ สามารถเข้าถึง Bitcoin ได้ง่ายขึ้น ก่อนที่ Bitcoin จะทำราคาสูงสุดใหม่ที่ $73,797 ในเดือนมีนาคม ซึ่งก่อนหน้านี้มันเคยราคาลดลงต่ำกว่า $16,000 ต่อเหรียญ ในเดือนพฤศจิกายน 2022

ปัจจัยเหล่านี้สร้างบริบทสำคัญให้กับผลการสำรวจจาก Harris Interactive

Donald Trump จาก ‘พรรครีพับลิกัน’เพิ่งวางตัวเองเป็นผู้สนับสนุนคริปโตในงานระดมทุนที่ซิลิคอนแวลลีย์ ข้อมูลจาก Harris Interactive Poll พบว่าคริปโตเป็นหัวข้อที่ทั้งสองพรรคการเมืองต่างให้ความสนใจ และเมื่อพิจารณาจากผลลัพธ์ของการจำลองผลการเลือกตั้งของเว็บไซต์ 538 ที่ใกล้เคียงกันมาก หากผู้สมัครคนใดสามารถดึงคะแนนเสียงจากอีกฝ่ายโดยใช้หัวข้อคริปโตเป็นจุดขาย นั่นอาจเป็นตัวชี้วัดผลการเลือกตั้งในครั้งนี้

ความสำคัญของ Bitcoin กำลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคและการเติบโตของตัวมันเอง โดยเกือบครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง (47%) ตอนนี้คาดหวังว่าส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนของพวกเขาจะมีคริปโตรวยอยู่ในนั้น (เพิ่มขึ้นจาก 40% เมื่อปลายปีที่แล้ว)

เช่นเดียวกับการสำรวจเฟสที่ 1 ของปี 2024 ผู้ตอบแบบสำรวจจัดอันดับเงินเฟ้อเป็นประเด็นสำคัญที่สุดในการเลือกตั้ง (28%) ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของสินทรัพย์ที่ป้องกันเงินเฟ้ออย่าง Bitcoin ต่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งโดยพิจารณาจากปริมาณเหรียญที่มีจำนวนจำกัดของ BTC

นอกจากนี้ ผลการสำรวจจาก Security.io เมื่อต้นปีพบว่า มากถึง 40% ของชาวอเมริกัน เป็นเจ้าของคริปโตเคอร์เรนซี รูปแบบใด รูปแบบหนึ่งอยู่  ซึ่งคิดเป็น จำนวนประชากรมากถึง 93 ล้านคน เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการเลือกตั้งประธานาธิบดี

การที่ประธานาธิบดี Joe Biden ใช้สิทธิ์วีโต้ยับยั้งมติการยกเลิกข้อกฎหมาย SAB-121 อาจส่งผลกระทบทางการเมืองอย่างรุนแรงต่อตัวเขาในการเลือกตั้ง นั่นเป็นเพราะ SAB-121 ทำให้ธนาคารและสถาบันต่างๆ เก็บรักษาคริปโตเคอร์เรนซีสำหรับบุคคลทั่วไปได้ยากขึ้นและมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น รวมถึงยับยั้งนวัตกรรมอื่นๆ เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลด้วย

การตัดสินใจครั้งนั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แย่ที่สุด ซึ่งก็คือช่วงที่การเลือกตั้งใกล้เข้ามา โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ไม่พอใจกับ “Biden-omics” ซึ่งผลสำรวจล่าสุดจาก Brookings Institute พบว่า 65% ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งให้คะแนนเศรษฐกิจดีในช่วงประธานาธิบดี Donald Trump เมื่อเทียบกับ Joe Biden ที่ได้คะแนนเพียง 38% 

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะว่าการสำรวจของ Harris พบว่า 62% ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งใน Gen Z และ Millennial เชื่อว่าเทคโนโลยีคริปโตและบล็อกเชนคืออนาคตของโลกการเงิน หากตัวเลขเหล่านี้ยังคงอยู่ในช่วง 120 วันถัดไป ทำเนียบขาวอาจจะได้รับการเปลี่ยนแปลงจากนาย Donald Trump ที่จะกลับมาสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง