<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักวิเคราะห์ชั้นนำเผยสาเหตุว่าทำไม Altcoins ส่วนใหญ่มักล้มเหลว และบางครั้งราคาอาจร่วงถึง 99%

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในตลาด Altcoin ที่เต็มไปด้วยเหรียญคริปโตมากมาย Altcoin เหล่านี้ ราคาอาจพุ่งสูงขึ้นในช่วงตลาดขาขึ้น แต่ราคาก็สามารถร่วงลงอย่างรุนแรงแบบฉับพลันเช่นกัน เมื่อความเชื่อมั่นของตลาดเปลี่ยนแปลงไป จนบางครั้งทำให้ราคาอาจร่วงลงไปมากถึง 99%

Lark Davis นักวิเคราะห์ชื่อดังอธิบายว่า การประเมินมูลค่าของ altcoin ควรเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจความเรียบง่ายของ altcoin เหล่านั้น ซึ่งในวิดีโอการวิเคราะห์ใหม่ล่าสุดของเขา ระบุว่าในขณะที่ altcoin บางตัวมีบทสรุปที่สามารถทำความเข้าใจได้ง่าย แต่สำหรับ altcoin ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยเป็นเช่นนั้น

ยิ่งโทเค็นมีความแปลกใหม่มากเท่าไหร่ ยิ่งยากต่อการทำความเข้าใจและประเมินมูลค่า ส่งผลให้มีความเสี่ยงสูง ซึ่งโทเค็นเหล่านี้ราคาอาจพุ่งสูงในช่วงตลาดขาขึ้น แต่ราคาก็สามารถร่วงลงอย่างรุนแรง เมื่อความเชื่อมั่นในตลาดเปลี่ยนแปลง จนบางครั้งอาจทำให้ราคา altcoin นั้น มูลค่าลดลงไปถึง 99%

Lark Davis  กล่าวว่า การแบ่งประเภทของ altcoin เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อค้นหาเหรียญที่มีศักยภาพ คำว่า “altcoin” มันกว้างเกินไป ดังนั้นการแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ย่อย ๆ จึงเป็นเรื่องที่เหมาะสม

การอภิปรายเกี่ยวกับ Ethereum

เริ่มต้นที่ Ethereum (ETH) มีการถกเถียงกันว่า  Ethereum ยังคงถือเป็น altcoin อยู่หรือไม่? กลุ่มคนที่สนับสนุน Bitcoin อย่างจริงจัง โต้แย้งว่า Ethereum เป็น altcoin  แต่บางคนก็เชื่อว่า Ethereum มีความสำคัญมากเกินกว่าที่จะจัดเป็น altcoin โดยชี้แนะว่า Ethereum เป็นประเภทสินทรัพย์ของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการอนุมัติกองทุน spot Ethereum ETFs ด้วย

โปรเจกต์เกิดใหม่

นอกเหนือจาก Ethereum แล้ว บล็อกเชน layer 1 ทางเลือกอื่น ๆ เช่น Solana, Avalanche และ Cardano ยังครองอันดับต้น ๆ โดยมักจะติดอยู่ในสกุลเงินดิจิทัลอันดับที่ 10-15 ที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (market cap) สูงสุด

ผู้เล่นหน้าใหม่อย่าง Tonchain ก็ประสบความสำเร็จอย่างน่าจับตามอง โดยนักวิเคราะห์คนนี้กล่าวว่า โปรเจกต์เหล่านี้มักมีความผันผวนสูง แต่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว

การขยายตัวของ Ethereum Layer-2

นอกเหนือจากโซลูชัน Layer-2 พื้นฐานแล้ว ระบบนิเวศ Ethereum Layer-2 ยังมีการขยายตัวด้วยเครือข่ายต่าง ๆ เช่น Arbitrum และ Base ที่รองรับการสร้างโซลูชัน Layer- 3  ตัวอย่างเช่น Orbit chains และ Degen on Base ของ Arbitrum 

ความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นนี้ ช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับตลาด altcoin

โปรเจกต์ยูทิลิตี้ (Utility Projects) เป็นอีกหนึ่งหมวดหมู่สำคัญในตลาด Altcoin โปรเจกต์เหล่านี้มุ่งเน้นการนำเสนอฟังก์ชันการทำงานที่เป็นประโยชน์ภายในระบบบล็อกเชน โทเค็นที่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์ยูทิลิตี้มักมีมูลค่ามาจากการใช้งานจริง  ซึ่งแตกต่างจากบาง Altcoin ที่เน้นการเก็งกำไร

โปรเจกต์ยูทิลิตี้ เป็นอีกประเภทที่สามารถแบ่งเป็นหมวดหมู่ที่สำคัญ ประกอบด้วยโอราเคิล (Oracles), เหรียญ AI (AI Coins), เหรียญสินทรัพย์โลกแห่งความจริง (Real-world Asset Coins) เหรียญของเว็บเทรดคริปโตแบบ Decentralized และโทเค็นเกม (Gaming Tokens)

โทเค็นเหล่านี้ในตลาด Altcoin มีความแตกต่างกันอย่างมากในด้านมูลค่าตามราคาตลาด (market cap)  และประโยชน์การใช้งานที่หลากหลาย โดยมักจะมีการผันผวนของราคาอย่างรุนแรงในช่วงเวลาอันสั้น

เหรียญมีม

เหรียญมีมถือเป็นเหรียญคริปโตที่มีความผันผวนและความเสี่ยงมากที่สุด ซึ่งในตลาดคริปโตจะมีเหรียญมีมใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเหรียญมีมเหล่านี้ส่วนมากจะมีลักษณะเป็นเหรียญที่ใช้สำหรับการเก็งกำไรสูง และอยู่ได้ไม่นาน แต่บางเหรียญก็สามารถสร้างตัวเองให้เป็นสินทรัพย์ในระยะยาวได้ อย่าง Dogecoin ซึ่งเป็นเหรียญมีมดั้งเดิมที่เปิดตัวในปี 2013 ก็เป็นตัวอย่างที่สำคัญ ซึ่ง Dogecoin กลายเป็นสินทรัพย์ในวงการคริปโต ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าแม้แต่เหรียญมีมก็ประสบความสำเร็จในระยะยาวได้เช่นกัน

ที่มา : bitcoinworld