<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Bitcoin สำรองบนเว็บเทรด ร่วงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 3 ปี! สัญญาณนี้บ่งบอกอะไร?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่า ดัชนี Bitcoin สำรองบนเว็บเทรด ซึ่งเป็นปริมาณบิตคอยน์ ทั้งหมดที่พร้อมซื้อขายบนกระดานเทรดคริปโตต่าง ๆ ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ซึ่งอาจส่งสัญญาณถึงภาวะการขายที่ลดลง และอาจทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอุปทาน โดยเป็นสาเหตุมาจากนักลงทุนสถาบันยังคงสะสม Bitcoin อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2024

CryptoQuant บริษัทวิเคราะห์คริปโต รายงานว่า ปัจจุบันมี Bitcoin จำนวนเพียง 2,825,703 BTC ที่เหลืออยู่บนตลาด ซึ่งลดลงจากเดือนมกราคม 2024 ที่มีปริมาณ Bitcoin สำรองอยู่ที่ราว 3,039,000 BTC

ปริมาณ Bitcoin สำรองบนเว็บเทรดที่ลดลง แสดงให้เห็นถึง แรงขายที่ลดลงซึ่งอาจเกิดจากภาวะอุปทานขาดแคลน เนื่องจากมีสภาพคล่อง หรือปริมาณ Bitcoin ที่พร้อมซื้อขายลดลง

กราฟแสดงปริมาณ Bitcoin สำรองบนเว็บเทรด ที่มา: CryptoQuant

แรงกดดันจาก Bitcoin ETF!

หลังจากการอนุมัติกองทุน Bitcoin ETF ในสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เหล่าบริษัทจัดการสินทรัพย์ยักษ์ใหญ่อย่าง BlackRock ก็เข้ามาซื้อ Bitcoin จำนวนมาก ส่งผลให้เกิดแรงกดดันด้านอุปทานของ Bitcoin โดยกองทุน iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของ BlackRock ถือครอง Bitcoin อยู่ที่ประมาณ 274,000 BTC ณ วันที่ 6 มิถุนายน 2024 ซึ่งนี่เป็นเพียงแค่ 1 ใน 11 กองทุนของ Bitcoin ETF ที่เปิดซื้อขายอยู่ในสหรัฐฯเท่านั้น

ช่วงเดือนพฤษภาคม 2024 เงินทุนไหลเข้าสู่กองทุนสินทรัพย์ดิจิทัลรายเดือน สูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนใน Bitcoin ETF 

ตามรายงานการไหลเวียนด้านเงินทุนประจำสัปดาห์ของ Coinshares เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2024 ชี้ว่า กองทุนการลงทุน Bitcoin ทั่วโลกถือครอง Bitcoin รวมกันเป็นมูลค่าเกือบ 73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

นอกจากนี้ Coinshares  ยังมีการรายงานอีกว่า Bitcoin มีการไหลออกสุทธิ (net outflow) อยู่ที่ 621 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์ที่ปิดวันที่ 15 มิถุนายน 2024 ซึ่งถือเป็นการไหลออกสุทธิครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 3 เดือน

Coinshares วิเคราะห์ว่า การออกมาแสดงความเห็นท่าที “hawkish” ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ซึ่งหมายถึงการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูง ส่งผลให้เกิดการเทขายสินทรัพย์ที่มีจำนวนจำกัดอย่าง Bitcoin 

ถึงแม้จะมีความสนใจจากสถาบันการเงินมากขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอย่าง Jenny Johnson ซีอีโอของ Franklin Templeton เชื่อว่าการเข้ามาลงทุนของสถาบันการเงินยังไม่ถึงจุดสูงสุด และในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC จอห์นสันกล่าวว่า “นี่เป็นเพียงคลื่นลูกแรกของผู้บุกเบิกเท่านั้น และคลื่นลูกต่อไปจะเป็นการเข้ามาของสถาบันการเงินที่ขนาดใหญ่มากขึ้นไปอีก”

อย่างไรก็ตาม หากคำทำนายของ Jenny Johnson เป็นจริง เงินทุนจากสถาบันการเงินจะยังคงไหลเข้าสู่ Bitcoin อย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อแรงกดดันด้านอุปทานของ Bitcoin ที่มีอยู่อย่างจำกัดในกระดานเทรดให้สูงขึ้นไปอีกในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า