Coinbase และ Stripe บริษัท Payment Gateway ชื่อดังที่ได้รับเงินลงทุนจาก Paypal ได้ประกาศความร่วมมือกันเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อนำเสนอบริการแปลงสกุลเงินเฟียตหรือเงินดอลลาร์เป็นคริปโตเคอร์เรนซี และบริการแปลงคริปโตเคอเรนซีเป็นสกุลเงินเฟียตให้กับลูกค้าของทั้งสองแพลตฟอร์ม
การจับมือกันครั้งนี้ จะทำให้เกิดการรองรับเหรียญ USD Coin (USDC) บนแพลตฟอร์ม Stripe ซึ่งจะช่วยให้การชำระเงินระหว่างประเทศและการชำระหนี้ด้วยสกุลเงินคริปโตรวดเร็วขึ้นเทียบเท่ากับเงินเฟียต โดยครอบคลุมกว่า 150 ประเทศทั่วโลก
ในทางกลับกัน Coinbase กำลังนำบริการของ Stripe มาพัฒนาเข้ากับแพลตฟอร์ม เพื่ออนุญาตให้ผู้ใช้ Coinbase สามารถซื้อสกุลเงินดิจิทัลด้วยบัตรเครดิตและ Apple Pay
Stripe ทำตามแผนการที่วางไว้ก่อนหน้านี้ ได้สำเร็จ!
เมื่อต้นปีนี้ John Collison ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานบริษัท Stripe ได้สัญญากับผู้เข้าร่วมประชุมที่งาน Sessions ของบริษัทว่า Stripe จะกลับมาให้บริการ Stable Coin อีกครั้ง
Stripe เคยเป็นหนึ่งในบริษัทรับชำระเงินออนไลน์เจ้าแรก ๆ ที่เปิดให้บริการสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin ในปี 2014 แต่ต่อมาได้ยกเลิกการสนับสนุนไป
Patrick Collison ผู้บริหารของ Stripe เคยให้เหตุผลเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าวว่า Bitcoin ในช่วงเวลานั้นเป็น “วิธีการชำระเงินที่ค่อนข้างย่ำแย่”
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด Stripe ได้กลับมาประกาศเข้าสู่วงการคริปโตอีกครั้ง พร้อมทั้งเปิดตัวการสนับสนุน Avalanche C-Chain สำหรับลูกค้าที่ได้รับการยืนยันตัวตน จาก Stripe เรียบร้อยแล้ว ทำให้ผู้ใช้ Stripe สามารถซื้อโทเค็น AVAX ด้วยเงินเฟียต
การต่อสู้ของ Coinbase
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบของสหรัฐอเมริกาส่งผลกระทบต่อนวัตกรรมด้านคริปโตเคอร์เรนซี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบริษัทเว็บเทรดคริปโตอย่าง Coinbase เนื่องจากเหล่าผู้ดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล และ Stable Coin ต่างอยู่ภายใต้การจับตามองอย่างเข้มงวดจากหน่วยงานรัฐบาล ตัวอย่างเช่น Stripe ซึ่งเคยมีส่วนร่วมในโปรเจกต์ Libra ของ Facebook ถูกบังคับให้ถอนตัวออกจากโปรเจกต์เนื่องจากแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่รัฐ
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน Coinbase ฟ้องร้องทั้งคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) และ บริษัทประกันเงินฝากสหพันธรัฐ (FDIC) โดยอ้างว่า หน่วยงานรัฐบาลทั้งสองแห่ง ไม่ได้จัดหาเอกสารที่จำเป็นตามพระราชบัญญัติเสรีภาพในการขอข้อมูล (FOIA)
ประเด็นสำคัญของการฟ้องร้องครั้งนี้ คือ คำตัดสินของ SEC ที่ไม่รวม Ethereum (Ether) ไว้ในรายการสกุลเงินดิจิทัลที่ถือว่าเป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน ซึ่งคล้ายกับ XRP ของ Ripple
อย่างไรก็ตาม Coinbase ยังคงมุ่งมั่นต่อสู้กับรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัว หน่วยงาน “Stand with Crypto” ซึ่งเป็นคณะกรรมการดำเนินการทางการเมืองของฝั่งอุตสาหกรรมคริปโต หรือ PAC ในสหรัฐอเมริกา โดยในเดือนมิถุนายน หน่วยงานดังกล่าวประกาศว่า ได้รับลายเซ็นจากผู้สนับสนุนคริปโตจำนวนมากถึง 1 ล้านลายเซ็น
ที่มาข่าว:cointelegraph
ที่มาภาพ: X/coinbase