<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ตลาดคริปโตถึงจุด “พีค” สุดแล้วหรือยัง? มาฟังความคิดเห็นจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญ!

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หลังจากที่ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี เริ่มต้นปี 2024 ได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนต่างตั้งคำถามว่า ตลาดคริปโตในครึ่งปีหลังจะเป็นอย่างไร โดยผู้เชี่ยวชาญบางกลุ่มมองว่า ตลาดอาจจะไม่มีอะไรหวือหวามากนัก ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญอีกกลุ่มมองว่า ราคาคริปโตเคอร์เรนซีมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นต่อไปตลอดช่วงครึ่งปีหลังของปี 2024 เนื่องจากกองทุน ETF ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดในช่วงครึ่งปีหลัง

นักวิเคราะห์ Matthew Sigel หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลของ VanEck มองว่า ตลาดคริปโตยังมีโอกาสเติบโตต่อไป โดยอาศัยข้อมูลแนวโน้มทางประวัติศาสตร์ของสินทรัพย์คริปโต

“หากความแข็งแกร่งของวัฏจักรปัจจุบันยังคงดำเนินตามแนวโน้มเดิม อาจชี้ไปที่จุดสูงสุดของตลาดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างไตรมาสที่ 2 ถึงไตรมาสที่ 4 ของปี 2025” Matthew กล่าว

ตามประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ตลาดคริปโตเคอเรนซีมักเผชิญกับวัฏจักรที่ชัดเจนทุก ๆ 4 ปี โดยราคามักจะพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจาก “halving” ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ปริมาณการผลิตเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีใหม่ลดลงครึ่งหนึ่ง

ในช่วง Cycle ระหว่างปี 2013 ถึง 2017 และปี 2017 ถึง 2021 ล้วนเป็นไปตามแนวโน้มนี้ทุกครั้ง โดยมีการทำสถิติราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่หลังจากเกิดการฮาฟวิ่ง

บทวิเคราะห์ของ Matthew Sigel ชี้ว่า ภาวะตลาดที่กำลังชะลอตัวอยู่ในขณะนี้ เป็นเพียงสัญญาณก่อนการพุ่งขึ้นอีกครั้ง

ในขณะที่ Matt Hougan ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Bitwise ก็มองเห็นโอกาสการปรับตัวขึ้นอีกครั้งเช่นกัน โดยคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นหลังจากการเปิดตัวกองทุน Ethereum ETF แบบสปอต ในสหรัฐฯ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบางคนคาดว่า อาจจะเกิดขึ้นเร็วที่สุดภายในเดือนนี้

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า Hougan ได้กล่าวว่า กองทุน Ethereum ETF อาจดึงดูดเงินทุนสุทธิมูลค่า 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ภายในสิ้นปี 2025

“นักลงทุนชื่นชอบหุ้นเทคโนโลยี” Hougan กล่าว โดยอ้างถึงความชื่นชอบของนักลงทุนที่มีต่อ “หุ้นเทคโนโลยีที่เติบโตสูง” เช่น Nvidia และ Meta “ผมค่อนข้างมั่นใจว่า นักลงทุนอาจจะยอมขายหุ้นเทคโนโลยีที่ถืออยู่อีกส่วนหนึ่ง เพื่อนำเงินมาลงทุนใน ETH แทน”

นอกจากนี้  Hougan ยังกล่าวเสริมอีกว่า “ผมค่อนข้างมั่นใจว่า นักลงทุนชื่นชอบหุ้นเทคโนโลยีที่มีการเติบโตสูงอย่างเช่น Nvidia และ Meta อาจจะยอมขายหุ้นเทคโนโลยีที่ถืออยู่ส่วนหนึ่ง เพื่อนำเงินมาลงทุนใน ETH แทน”

แม้จะมีการคาดการณ์เงินทุนสุทธิไหลเข้ากองทุน Ethereum  ETF มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในสิ้นปี 2025 แต่ตัวเลขดังกล่าวยังถือว่าน้อยกว่ากองทุน Bitcoin ETF ที่สามารถดึงดูดเงินทุนสุทธิได้ถึง 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในระยะเวลาไม่ถึง 6 เดือน และคาดการณ์ว่าจะดึงดูดเงินลงทุนได้มากกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในสิ้นปี 2025

นอกจากนี้ ปัจจัยทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งภายในสหรัฐฯ และต่างประเทศ ก็เป็นอีกประเด็นที่ต้องจับตามอง เนื่องจากมันอาจนำไปสู่แนวทางการกำกับดูแลที่ชัดเจนยิ่งขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี

ส่วนนักวิเคราะห์อีกรายอย่าง Pav Hundal หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดของกระดานเทรดคริปโต Swyftx กล่าวว่า นักเทรดไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้นในยุโรปและสหรัฐฯ เสมอไป แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจส่งผลดีต่อตลาดคริปโตเคอร์เรนซี

Pav Hundal ได้กล่าวปิดท้ายว่า “อย่างน้อยที่สุด ระบบการเงินแบบไร้ศูนย์กลาง (DeFi) น่าจะกลายเป็นที่สนใจของนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันมากขึ้น ในยุคปัจจุบันที่สถานการณ์ทางการเมืองมีความไม่แน่นอน” 

  • ที่มาข่าว:decrypt
  • ที่มาภาพ:Medium