มีการคาดการณ์กันว่าในปีนี้ Solana (SOL) อาจจะขึ้นมาเป็นโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีที่มูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดเป็นลำดับที่ 3 ตามหลังแค่เพียง Ethereum และ Bitcoin หลังมีกระแสข่าวลือเรื่องดี ๆ ต่าง ๆ มากมายรายล้อม
ทว่าเมื่อลองตัดเรื่องเหล่านั้นออกไปตัวของ Solana ก็ยังขึ้นชื่อในเรื่องของบล็อกเชนที่สามารถรองรับการทำธุรกรรมจำนวนมากได้โดยมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำ อีกทั้งยังมีประโยชน์ใช้งานจริง และมีระบบนิเวศที่ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
นอกเหนือจากกระแสเหรียญ memecoins แล้วเมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดเรื่องสุดตื่นเต้นขึ้นกับเครือข่าย Solana หลังทาง VanEck ได้ยื่นเอกสารขอจัดตั้ง Solana ETF ทำให้ดัชนี Bitcoin dominance ลดลงมาเหลือ 50% ซึ่งต่อมาไม่นานทาง ARK 21Shares ก็ได้มีการส่งเอกสารขอยื่นการจัดตั้งเช่นกัน เพียงแต่มีการกำชับชัดเจนว่าถ้าหาก Solana ถูกจัดหมวดหมู่ให้เป็น “หลักทรัพย์” ทางบริษัทจะขอถอนตัวจากคำร้องดังกล่าวทันที
แม้ว่าทางยักษ์ใหญ่อย่าง JPMorgan จะไม่เชื่อว่า Solana ETF จะได้รับการอนุมัติ แต่ภาพรวมของ Solana ยังคงดูดีอยู่และมีการคาดการณ์ว่าจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในตลาดขาขึ้นที่กำลังจะมาถึง ส่งผลให้ในอนาคตจะมีผู้ใช้งานเพิ่มมากยิ่งขึ้น
Solana เตรียมนำทัพเข้าสู่ “banana zone”
Raoul Pal อดีตผู้บริหาร Goldman Sachs และนักวิเคราะห์คริปโต เชื่อมั่นว่า Solana กำลังจะมีอนาคตที่สดใส ซึ่งเขาระบุว่าขณะนี้ตัวของ SOL กำลังใกล้ที่จะขยับเข้าสู่ “banana zone” ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกตลาดขาขึ้นอย่างยาวนาน
นอกจากการวิเคราะห์กราฟราคาแล้ว Pal ยังชี้ให้เห็นว่าปัจจุบันเครือข่าย Solana กำลังมีการพัฒนานวัตกรรมครั้งใหญ่ที่จะเข้ามาสะเทือนวงการคริปโต โดยตัวแรกจะเป็นเทคโนโลยีการบีบอัด NFT ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถนำ NFT ไปทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากยิ่งขึ้น และนวัตกรรมที่สองอย่าง Firedancer ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์สำหรับ third-party validator client สำหรับบล็อกเชน Solana ที่มีเป้าหมายในการยกระดับประสิทธิภาพและความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมของเครือข่าย
ตัวของ Pal นั้นเชื่อมั่นในการพัฒนา Firedancer เป็นอย่างมากถึงขนาดที่พอร์ตลงทุนส่วนใหญ่ของเขานำไปลงกับ Solana แทบหมดหน้าตัก
ที่มา : Cryptopolitan