การแข่งขันชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังดำเนินไปอย่างดุเดือด หลายฝ่ายต่างจับตาคาดเดาผลการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพราะว่ามันอาจเป็นตัวตัดสินอนาคตของ Bitcoin และตลาดคริปโตเคอร์เรนซี ได้เลยทีเดียว
ในบทสัมภาษณ์พิเศษนี้ ทาง Siam Blockchain ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณ “CK” CEO ของ Fastwork แพลตฟอร์มฟรีแลนซ์ออนไลน์ชั้นนำ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านการลงทุน เราจึงได้ถามเขาเกี่ยวกับมุมมองต่อผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ และความเจ๋งของ Bitcoin และ Ethereum แบบที่เรียกได้ว่าไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน
Siamblockchain: ตอนนี้ชาวคริปโตกำลังให้ความสนใจการเลือกตั้งสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก เพราะมันจะเป็นตัวกำหนดอนาคตของคริปโตได้เลย ในฐานะที่คุณ CK เคยเรียนและทำงานในบริษัทชั้นนำที่อเมริกา การเลือกตั้งสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ คุณ CK คิดว่าใครจะได้ครับ
คุณ CK: Trump 100% ครับ (ตอบไวมาก) คุณลองคิดดู เมื่อวานเกิดเหตุลอบสังหาร Trump ทำไมเรื่องราวแบบนี้ถึงเกิดขึ้นได้ ถ้าอเมริกาบอกตัวเองเป็นประเทศอันดับ 1 ของโลก ในประเทศที่บอกว่าเขา Stand for ประชาธิปไตยเสรี ขนาดประเทศโลกที่ 3 ยังไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลยนะ การลอบฆ่า Presidential Candidate และข้อดีคือว่า เขาไม่ตาย คนจะแห่มาเลือก Trump เพราะคิดว่าพรรค Democrat (ฝั่งตรงข้าม) ยอมฆ่าคนปิดปาก แถมยังชอบออกแต่ข่าวปลอม ดังนั้นคนจะไม่ได้เลือก Trump แค่เพราะชอบนโยบายอย่างเดียวละ ถ้า Biden ยังรันต่อ คะแนนเสียงจะแลนด์ไสลด์มาที่ Trump แน่นอนครับ
Siamblockchain: ในฐานะที่คุณ CK เป็นนักธุรกิจผมอยากทราบว่าคุณ CK มีมุมมองยังไงเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีหรือ Bitcoin บ้างครับ?
คุณ CK: คืออย่างงี้ ส่วนตัวผมเชื่อใน Bitcoin นะ Bitcoin คือศาสนาครับ เพราะงั้น Bitcoin จะไม่สามารถมาแทนเงินสดได้ เพราะว่า Bitcoin มันไม่เฟ้อ เงินสดมันต้องเฟ้อครับ เหตุผลเป็นเพราะว่า หากเงินสดไม่เฟ้อ คนก็จะอยากเก็บแต่เงิน ไม่อยากใช้จ่าย แล้วคุณคิดว่า เศรษฐกิจมันจะขยายตัวได้ยังไงถ้าคนไม่ยอมใช้เงินกัน ดังนั้น Bitcoin คือศาสนา Bitcoin ไม่ใช่เงินสด ผมอยากให้ทุกคนรักบิตคอยน์ มั่นใจกับบิตคอยน์ เพราะว่า Bitcoin อยากจะมาเป็นอีกช่องทางหนึ่งของ Store of Value หรือแหล่งเก็บความมั่งคั่งแห่งใหม่ ซึ่งผมคิดว่ามันอาจจะใช้ได้จริง ๆ เช่นเดียวกับทองคำ
Siamblockchain: คุณ CK มีอะไรที่ยังไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน แล้วอยากจะบอกที่นี่เป็นที่แรกมั้ยครับ?
คุณ CK: ผมคิดว่า เราไม่ควร เปรียบเทียบ Bitcoin กับ Ethereum เพราะ Ethreum ไม่ได้ต้องการเป็น Store of Value แต่มันต้องการจะเป็น Backbone Decentralized Application (Dapp) ซึ่ง Dapp ก็เป็นเหมือน แอพพลิเคชันที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ อย่างเช่น Grab แต่เป็น DGrab คือการที่ตัดตัวกลางทั้งหมดออกไปรวมถึงเจ้าของ และ คุณกับคนขับรถจ่ายเงินให้กันโดยตรง ทำไมมันถึงสำคัญครับ เพราะมันมียูสเคสบางยูสเคสนะครับ ที่ผมเชื่อว่ามันจะเป็นอนาคตอย่างแน่นอนครับ คือ Defi หรือ Decentralized Finance ซึ่งมันถือเป็นยูสเคสของ Dapp ยุคแรก ๆ ในแวดวงของการเงิน
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวที่เรานำมาแชร์ในครั้งนี้ ยังเป็นแค่ส่วนหนึ่งของเนื้อหาฉบับเต็มเท่านั้น อีกไม่นานเราจะเผยแพร่เนื้อหาคลิปฉบับเต็มของคุณ “CK” ในช่อง Youtube ของทาง Siam Blockchain เรียกได้ว่าคลิปนี้ทั้งฮา และมีเรื่องน่าสนใจอีกเพียบ รอติดตามได้เลย ไม่เกินสัปดาห์นี้ได้ชมคลิปเต็มแน่นอน