Willy Woo นักวิเคราะห์คริปโต ชี้ว่า ทิศทางราคา Bitcoin กำลังเผชิญแรงดึงดูดระหว่างกลุ่มที่มองบวก (bullish) และกลุ่มที่มองลบ (bearish) โดยเขามองว่าสัญญาณบวก เช่น การสิ้นสุดของภาวะนักขุดเทขาย และอัตรา Hash Rate ที่ฟื้นตัว เป็นปัจจัยหนุน ขณะที่การไหลเข้าของ Bitcoin สู่ตลาดซื้อขาย และการเปิดตัว ETF ของ Ethereum เป็นปัจจัยเสี่ยง
Willy สังเกตว่า การสิ้นสุดของภาวะนักขุดเทขาย เป็นสัญญาณบวกแรกเริ่ม ที่มักบ่งชี้ถึงการปรับตัวของราคาในทิศทางที่ดี และการฟื้นตัวของ Hash Rate ของ Bitcoin ซึ่งสอดคล้องกับการเปิดตัวฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ ยิ่งตอกย้ำมุมมองเชิงบวกนี้ โดยเฉพาะการเปิดตัวฮาร์ดแวร์ขุด Bitcoin รุ่นใหม่ เช่น M66s และ S21 Pros เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งข้อมูลในอดีตชี้ว่า การฟื้นตัวของ Hash Rate มักตามมาด้วยการปรับตัวขึ้นของราคา Bitcoin เป็นเวลาหลายเดือน ซึ่งกำลังเกิดขึ้นในขณะนี้
Willy ยังชี้ว่า Puell Multiple ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรของนักขุดเมื่อเทียบกับรายได้ในอดีต เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ โดยตัวชี้วัดนี้สะท้อนให้เห็นถึงสองภาวะหลัก คือ ความสามารถในการทำกำไรที่อยู่ในระดับต่ำสุดในประวัติศาสตร์ และผลกระทบจากการ Halving ของ Bitcoin ซึ่งลดรายได้ของนักขุดลง 50% ในขณะนี้ ตลาดกำลังเผชิญกับภาวะหลัง ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นของนักขุด
อย่างไรก็ตาม ความกังวลก็เกิดขึ้นจากสัญญาณเชิงลบ เช่น การไหลเข้าของ Bitcoin สู่ตลาดซื้อขาย ที่อาจบ่งชี้ถึงแรงเทขาย โดยเฉพาะการโอน Bitcoin จำนวน 50,000 BTC จาก MtGox ไปยัง Kraken ซึ่งอาจสร้างความกังวลให้กับตลาด นอกจากนี้ Willy ยังมองว่า การเปิดตัว Ethereum spot ETF เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยง เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าเงินทุนจาก Bitcoin ETF อาจไหลไปยัง Ethereum ETF ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคา Bitcoin ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 66,637.35 ดอลลาร์
Willy คาดการณ์ว่า Bitcoin จำเป็นต้องทะลุ 73,000 ดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นให้เกิด Short Squeeze ซึ่งอาจดันราคาไปที่ 77,000 ดอลลาร์ หรือมากกว่า ความเป็นไปได้ในการค้นหาระดับราคาใหม่นี้ แสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ระหว่างอุปสงค์และอุปทานในตลาด Bitcoin ที่ยังคงดำเนินอยู่
ที่มา: coinedition