หัวหน้าฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัลของ Blackrock นาย Robert Mitchnick กล่าวในงาน Bitcoin2024 conference ว่าลูกค้าของพวกเขามอง Bitcoin และ Ethereum เป็นสินทรัพย์เสริม (complements) ไม่ใช่สินทรัพย์ทดแทน (substitutes) ในพอร์ตการลงทุนคริปโต และตัวของเขาเองเห็นว่าลูกค้า “มีความสนใจที่น้อยมาก” ในคริปโตตัวอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bitcoin และ Ethereum ที่เป็นแกนหลักของสินทรัพย์ดิจิทัล
Mitchnick อธิบายว่า ฐานลูกค้าของเขาให้ความสนใจ Bitcoin เป็นส่วนมาก และมีบ้างที่สนใจในตัวของ Ethereum และแทบจะไม่แสดงความสนใจในคริปโตสกุลอื่นเลย ซึ่งเขาคาดว่าเราอาจจะไม่ได้เห็นรายชื่อกองทุนคริปโต ETFs ยาวเป็นหางว่าวแต่อย่างแน่นอน
ทว่าไม่ใช่ผู้จัดการกองทุนทุกรายจะเห็นด้วยกับความคิดเห็นของ BlackRock เช่น Franklin Templeton ที่มองว่านอกเหนือจาก Bitcoin และ Ethereum แล้ว Solana ก็ยังมีความน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยพวกเขาชื่อว่ายังมีโปรเจกต์ที่น่าสนใจหลายตัวที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมคริปโตให้เคลื่อนไปข้างหน้าได้
ในประเด็นเรื่องลูกค้าของ BlackRock มอง Bitcoin และ Ethereum เป็นสินทรัพย์เสริม (complements) ไม่ใช่สินทรัพย์ทดแทน (substitutes) ที่ Mitchnick ได้กล่าวมาข้างต้น เขาอธิบายเพิ่มเติมว่าลูกค้าของพวกเขาจะทำการซื้อทั้งกองทุน ETFs เข้าไปเพิ่มเติมเสริมขนาดให้กับพอร์ตการลงทุนมากกว่าแปลงคริปโตจริง ๆ ที่ครอบครองให้กลายเป็น ETFs ซึ่งในแง่ของการรักษาความมั่งคั่ง Bitcoin ยังคงเป็นผู้นำในด้านนี้อยู่โดยไม่ต้องสงสัย ขณะที่ทางฝั่ง Ethereum ก็พยายามทำสิ่งต่าง ๆ ที่ Bitcoin ไม่คิดจะทำ
ทั้งนี้ Mitchnick คาดว่านักลงทุนส่วนใหญ่จะแบ่งสัดส่วนพอร์ตเป็น Ethereum ประมาณ 20% ขณะที่ส่วนอื่น ๆ จะตกเป็นของ Bitcoin
ปัจจุบันกองทุนคริปโต ETFs ของ BlackRock นั้นเป็นหนึ่งในกองทุนที่ได้รับความนิยมที่สุดในตลาด เห็นได้จากกองทุน iShares Bitcoin Trust (IBIT) มีสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การดูแลเป็นมูลค่ามากถึง $2.2 หมื่นล้าน ขณะที่กองทุน iShares Ethereum Trust ETF (ETHA) นั้นมีมูลค่ามากกว่า $270 ล้านแม้จะพึ่งเปิดซื้อขายมาได้ไม่กี่วัน
ที่มา : Cointelegraph