ตามรายงานของนักวิเคราะห์ บล็อกเชน EmberCN ระบุว่า ราคา Ethereum (ETH) ที่ลดลงอย่างมาก ส่งผลให้เกิดการล้างพอร์ต (liquidation) ในหมู่นักเทรด ETH รายใหญ่ที่ใช้เลเวอเรจในการซื้อขาย โดยบัญชีเหล่านี้ถูกบังคับให้ขาย ETH ที่ถืออยู่เพื่อชำระคืนเงินกู้ รวมถึงที่อยู่บัญชีเหล่านี้
- ที่อยู่ที่ขึ้นต้นด้วย “0x4196” ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลบนเครือข่าย Ethereum ได้ถูกบังคับขาย ETH จำนวน 2,965 ETH เพื่อนำเงินที่ได้ไปชำระคืนเงินกู้ USDT จำนวน 7.2 ล้าน USDT เนื่องจากมูลค่าของหลักประกัน (ETH) ไม่เพียงพอที่จะครอบคลุมมูลค่าของเงินกู้ (USDT) ที่ได้กู้ยืมไว้
- ที่อยู่ที่ขึ้นต้นด้วย “0x1111” ถูกบังคับขาย 6,559 ETH เพื่อชำระคืนเงินกู้ WBTC จำนวน 277.9 WBTC
- ที่อยู่ที่ขึ้นต้นด้วย “0x790c” ถูกบังคับขาย 2,771 ETH เพื่อชำระคืนเงินกู้ USDC 6.06 ล้าน USDC
- ที่อยู่ที่ขึ้นต้นด้วย “0x5de6” ถูกบังคับขาย 2,358 ETH เพื่อชำระคืนเงินกู้ USDC จำนวน 5.17 ล้าน USDC
การล้างพอร์ตเหล่านี้เกิดขึ้นท่ามกลางการเทขายในตลาดที่เพิ่มขึ้นในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตามรายงานของ Crypto Briefing ราคา ETH ลดลงกว่า 20% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา การลดลงครั้งนี้ทำให้การทำกำไรจากการเพิ่มขึ้นของ Ethereum ในปีนี้หายไป
การปรับฐานราคาเกิดขึ้นตั้งแต่วันศุกร์ อาจเป็นเพราะข้อมูลจากการจ้างงานที่น่าผิดหวัง และความตึงเครียดทางการเมือง โดยในวันเสาร์ ราคา Bitcoin ร่วงลงต่ำกว่า 60,000 ดอลลาร์ เนื่องจากความกลัวเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยทวีความรุนแรงขึ้น
เมื่อสภาวะของตลาดคริปโตมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ราคา ETH และ altcoins อื่น ๆ ก็ได้รับผลกระทบด้วย ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ETH ลดลงจากประมาณ 3,300 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 2,300 ดอลลาร์ คิดเป็นการลดลงกว่า 30% ตามข้อมูลของ CoinGecko ปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้ราคาร่วงลงอย่างรุนแรง ได้แก่ แรงกดดันจากการถูกล้างพอร์ตที่เพิ่มขึ้น และข่าวลือเกี่ยวกับการเทขาย ETH ครั้งใหญ่โดย Jump Trading
ผลกระทบต่อเนื่องของเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ส่งผลให้นักเทรดสูญเงินมูลค่าสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์ ภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง และยอดรวมภายใน 24 ชั่วโมงนั้นสูงเกิน 445 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในปัจจุบันทั้งตลาดฟิวเจอร์ส โดนล้างพอร์ตไปแล้วมูลค่า 1.06 พันล้านดอลลาร์
ที่มา : cryptobriefing