MicroStrategy ซื้อ Bitcoin ล็อตแรกเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2020 และกลายเป็นบริษัทแห่งแรกที่ใช้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองในคลัง 4 ปีให้หลัง การเคลื่อนไหวอันกล้าหาญที่เกิดขึ้นได้พัฒนาไปสู่กลยุทธ์ที่กำหนดทิศทางอนาคตของบริษัทซึ่งทำให้ผลตอบแทนของบริษัทแซงหน้าแม้กระทั่งผลตอบแทนของ Berkshire Hathaway ของ Warren Buffett
MicroStrategy ทำกำไร Bitcoin ได้ 5,380ล้านดอลลาร์
ณ วันที่ 10 สิงหาคม 2024 MicroStrategy ถือครอง Bitcoin 226,500 BTC มูลค่า 13,771 ล้านดอลลาร์ ซึ่งได้มาในราคาเฉลี่ยประมาณ $37,000 เนื่องจากปัจจุบัน Bitcoin ราคาอยู่ที่ประมาณ $60,500 ืทำให้ตอนนี้ MicroStrategy จึงยังมีกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการขายประมาณ 5,390 ล้านดอลลาร์
แม้จะเห็นตัวเลขกำไรเป็นกอบเป็นกำแล้ว แต่บริษัทของ Michael Saylor ก็ยังคงถือ Bitcoin ไว้ โดยเลือกที่จะไม่เทขายเหรียญออกไปแม้แต่ BTC เดียวพวกเขาได้แสดงความตั้งใจที่จะเก็บสะสม Bitcoin ต่อไป โดยเห็นได้จากการซื้อครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม
Michael Saylor กำลังเอาชนะ Warren Buffett ผู้เป็นตำนาน
มูลค่าหุ้น MSTR ของ MicroStrategy ตอบสนองเชิงบวกในจากการซื้อ Bitcoin โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 1,000% นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 ซึ่งสูงกว่าผลตอบแทนของ BTC 1.5 เท่า และสูงกว่าผลตอบแทนของดัชนี S&P 500 (SPX) 16.25 เท่า ในช่วงเวลาเดียวกัน
สิ่งที่น่าสนใจคือ BRK.A ซึ่งเป็นหุ้น Berkshire Hathaway หุ้น Class A ของ Warren Buffett ทำราคาได้แย่กว่าเสียอีกเมื่อเทียบกับ MSTR นับตั้งแต่การซื้อ Bitcoin ครั้งแรกของ MicroStrategy BRK.A เพิ่มขึ้นเพียง 104.75% ในช่วงเวลานี้ โดยทัศนคติเชิงลบของ Buffett ต่อ Bitcoin ทำให้ Berkshire ไม่สามารถเริ่มปูทางไปซื้อการลงทุนใน Bitcoin ได้
ในปี 2018 Buffett ขนานนาม Bitcoin ว่าเป็น “ยาเบื่อหนูยกกำลังสอง” Charlie Munger คนสนิทใกล้ชิดของเขายิ่งโจมตีรุนแรงกว่าและคาดการณ์ว่าราคาของ BTC จะลดลงจนเหลือศูนย์ ซึ่งมองว่ามันเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่ารังเกียจตามที่เขาเคยพูดใน 2021
แต่อย่างไรก็ดี Bitcoin และ MSTR ก็ทำราคาได้ดีกว่าหุ้นชั้นนำของ Buffett เช่น Apple, American Express และ Bank of America ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ดูเหมือนการเริ่มลงทุนใน Bitcoin ของ Microstrategy ในปี 2020 เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้ถือได้ว่าเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าพวกเขาเลือกเดินทางถูกแต่อนาคตทุกอย่างก็ยังไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับราคา Bitcoin ในอนาคตข้างหน้า
ที่มา : Cointelegraph