ตามปกติของวัฏจักร Bitcoin นช่วงเวลาหลังการ halving มักจะเป็นช่วงที่ราคาของ Bitcoin ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งตามสถิติก็เป็นแบบนี้มาตลอดทั้งสามครั้งที่ผ่านมา โดยถ้าหากครั้งที่สี่จะยังคงเหมือนเดิม ราคาของ Bitcoin ก็ควรจะยืนเหนือเลขหกหลักได้ภายในปี 2025
1.วัฏจักรราคาหลัง Halving
จากการวิเคราะห์ข้อมูลราคา Bitcoin ในอดีต บริษัท Ecoinometrics พบว่า ราคา Bitcoin ที่ร่วงลงต่ำกว่า 50,000 ดอลลาร์ล่าสุดนั้น ต่ำกว่าระดับที่คาดการณ์ว่าราคาจะเติบโตหลังจากเหตุการณ์ halving
บริษัท ระบุว่าถ้าหาก Bitcoin สามารถกลับไปอยู่ในระดับราคาที่เหมาะสมก่อนสิ้นปีนี้จะมีโอกาสสูงมากที่เราจะได้เห็นราคาแตะหกหลัก ระหว่าง $140,000 ไปจนถึง $4,500,000 เลยทีเดียวหากมีอัตราการเติบโตในลักษณะเช่นเดียวกับกับวัฏจักรขาขึ้นทั้งสามครั้งที่ผ่านมา
2.ผลการวิเคราะห์ด้านเทคนิคัล
จากมุมมองทางเทคนิค นักวิเคราะห์ Bitcoin นามแฝงอย่าง Rekt Capital มองว่า การฟื้นตัวล่าสุดของ Bitcoin ที่สามารถกลับมายืนเหนือ $60,000 เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ทำให้เทรนด์ของตลาดเกิดความเปลี่ยนแปลง จากตลาดขาลงเป็นตลาดขาขึ้น และเปลี่ยนแนวต้านเดิมกลายเป็นแนวรับใหม่
อย่างไรก็ตาม Rekt Capital กล่าวว่าปัจจัยสำคัญที่สุดในตอนนี้ของ Bitcoin คือการการรักษาเทรนด์ขาขึ้น ไปพร้อม ๆ กับมีแรงซื้อที่ฟื้นตัว เพื่อขยับราคาขึ้นไปให้ต่อไปอีก
Exel Adler Jr. นักวิเคราะห์อีกรายให้ความเห็นว่า ความต้องการใน Bitcoin จะเกิดขึ้นเมื่อนักลงทุนพบเจอสัญญาณ Bullish จากอินดิเคเตอร์ MACD ในกราฟรายวัน ซึ่งเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมาตัวของ MACD ยังคงอยู่ในโซนติดลบ ซึ่งเป็นโซนที่ใกล้เคียงกับช่วง 8 กรกฏาคมที่ราคา Bitcoin ร่วงไป $53,550 ก่อนที่อีกไม่กี่วันถัดมาจะเกิด bullish cross ขึ้นใน MACD หลัง Bitcoin พุ่งทะยานไปท้าทายระดับราคา $70,000 ในช่วงสิ้นเดือนก.ค.
การวิเคราะห์ดังกล่าวหมายความว่าถ้าหากเส้น MACD ยังจะคงรูปแบบเดิม ราคา Bitcoin อาจจะพุ่งทะยานไปเหนือกว่าระดับที่หลายคนคาดการณ์เอาไว้
3.นักลงทุนกลับมาถือเหรียญระยะยาว
ปัจจัยสุดท้ายคือ การที่นักลงทุนกลับมาถือเหรียญในระยะยาว โดย Glassnode พบว่าหลังการเทขายจบลง นักลงทุนเริ่มกลับมาถือเหรียญเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นเจ้ามือ หรือรายย่อย ส่งสัญญาณว่า Bitcoin จะมีอนาคตที่สดใส เห็นได้จากกราฟด้านล่างที่เปิดเผยว่าเจ้ามือกำลังช้อนเหรียญกันจำนวนมากในช่วงเดือนที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันเมื่อลองมองดูกราฟในปัจจุบันจะพบว่า นักลงทุนเริ่มมีการชะลอการซื้อเหรียญลงและมีแนวโน้มที่จะเก็บเหรียญเตรียมตัวรับตลาดขาขึ้น โดยมี Bitcoin จำนวนมากถึง 374,000 BTC ที่อยู่ในสถานะ long term holding ในปัจจุบัน
ที่มา : Cointelegraph