ศาลในประเทศไนจีเรียได้ออกคำสั่งให้อายัดคริปโตเคอร์เรนซีมูลค่าเกือบ 38 ล้านดอลลาร์ จากจำนวน 50 ล้านดอลลาร์ หลังพบว่าถูกโอนไปสนับสนุนการประท้วงต่อต้านค่าครองชีพที่สูงขึ้นในประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในทวีปแอฟริกา
อ้างอิงจาก Premium Times ศาลสูงกลางในกรุงอาบูจาได้มีการอายัด Wallet คริปโตจำนวน 4 ใบ หลังพบว่าเป็นของผู้จัดการประท้วง #EndBadGovernance ตามคำร้องขอของคณะกรรมาธิการอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและการเงิน (EFCC)
ซึ่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ Nuhu Ribadu ได้ออกมากล่าวว่า รัฐบาลได้ตรวจพบเงินจำนวน 50 ล้านดอลลาร์ถูกโอนไปยัง Wallet ที่รับการบริจาคเพื่อสนับสนุนการประท้วง และสามารถอายัดWallet ได้จำนวน 4 ใบ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 38 ล้านดอลลาร์ได้สำเร็จ
ในขณะเดียวกัน ชาวไนจีเรียยังคงประท้วงต่อต้านค่าครองชีพที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากค่าเงินไนราของประเทศที่กำลังอ่อนตัวลงอย่างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์มานานกว่าหนึ่งปีแล้ว ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงถึง 33.2% ในรอบ 28 ปี
ทว่าทางการกลับอ้างว่าเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นมาจากการซื้อขายคริปโต โดยเฉพาะเมื่อต้นปีที่ผ่านมาหลังผู้ว่าการธนาคารแห่งไนจีเรีย Olayemi Cardoso ได้ออกมากล่าวหา Binance ว่าได้นำเงินทุนกว่า 26 พันล้านดอลลาร์ไหลออกนอกประเทศโดยไม่สามารถติดตามได้
การไหลออกจำนวนมากนี้ ส่งผลกระทบต่อรายได้ภาษีของประเทศอย่างมาก และทำให้เกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องที่นำไปสู่การจับกุม Tigran Gambaryan เจ้าหน้าที่ของ Binance ที่เป็นพลเมืองสหรัฐฯ ซึ่งถูกเชิญไปเจรจาเกี่ยวกับข้อพิพาทดังกล่าว
ที่มา: CoinDesk