หนึ่งในตลาดซื้อขาย Non-Fungible Tokens (NFTs) ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง OpenSea ได้รับการแจ้งเตือน Wells Notice จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) โดยระบุว่า NFTs ที่มีการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม OpenSea อาจถูกจัดประเภทเป็นหลักทรัพย์
โดย Devin Finzer ซีอีโอของ OpenSea ได้ออกมาประกาศข่าวดังกล่าวผ่าน X (Twitter) ซึ่งเขาได้แสดงความตกใจต่อการตัดสินใจของ SEC และเน้นถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้สร้างผลงานและศิลปิน
“เราพร้อมที่จะลุกขึ้นสู้”
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ SEC เคลื่อนไหวแบบนี้ เพราะหน่วยงานได้เฝ้าจับตามองวงการคริปโตเคอร์เรนซีและสินทรัพย์ดิจิทัลมาอย่างยาวนาน และได้เคยดำเนินการกับบริษัทหลายแห่ง เช่น Coinbase, Uniswap และ Kraken
ซึ่ง Finzer ก็ได้วิพากษ์วิจารณ์แนวทางการกำกับดูแลโดยการบังคับใช้กฎระเบียบของ SEC โดยระบุว่าวิธีนี้ส่งผลกระทบต่อการสร้างนวัตกรรมและเสี่ยงต่อ “ศิลปินและผู้สร้างนับแสนคน” ที่ไม่มีทรัพยากรเพียงพอที่จะต่อสู้กับคดีทางกฎหมายที่ซับซ้อน
Finzer ยังได้อ้างถึงคดีความที่ถูกยื่นฟ้องต่อ SEC อย่างนักดนตรี “Songadaymann” และศิลปินแนวคิด Brian L. Frye ซึ่งทั้งสองกังวลว่างานสร้างสรรค์ของพวกเขาอาจถูกจัดประเภทเป็นการเสนอขายหลักทรัพย์โดยไม่ได้จดทะเบียน
และจากความไม่แน่นอนทางกฎหมายนี้ Finzer ชี้ว่าอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้สร้างสรรค์หลายคนในวงการ NFT โดยเขายังได้เน้นย้ำว่า NFTs เป็นสินค้าสร้างสรรค์โดยพื้นฐาน เช่น งานศิลปะ ของสะสม ไอเท็มในเกมโดเมนเนม และตั๋วเข้างาน และไม่ควรถูกกำกับดูแลเหมือนกับหลักทรัพย์ที่มีการค้ำประกัน
แต่เพื่อตอบสนองต่อการกระทำของ SEC ทาง OpenSea จึงได้จัดสรรงบประมาณ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสนับสนุนค่าธรรมเนียมทางกฎหมายให้กับผู้สร้าง NFT และนักพัฒนาที่ได้รับการแจ้งเตือน Wells Notice เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจว่าทุกคนที่สร้างสรรค์ผลงานจะสามารถนำนวัตกรรมของพวกเขาไปสู่ผู้คนได้โดยไม่ต้องกลัวการถูกกฎระเบียบขัดขวาง
ที่มา: Bitcoinist