เมื่อวันที่ 8 กันยายน Jim Bianco, CEO ของ Bianco Research ได้แสดงความเห็นผ่าน X (Twitter) ว่ากองทุน Spot Bitcoin ETFs ที่ได้รับการเปิดตัวตั้งแต่เดือนมกราคม ยังไม่ได้เป็นไปตามความคาดหวังเหมือนที่เคยถูกพูดถึงก่อนการอนุมัติ แม้จะประสบความสำเร็จอย่างมากก็ตาม
Bianco ระบุว่า จากการที่มีเงินทุนไหลออกจากกองทุนเป็นจำนวนมากในช่วงนี้ จนทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสูญเสียเงินของพวกเขาในขณะที่ขาดการลงทุนจากสถาบันใหญ่ๆ ถือเป็นสัญญาณว่าตลาด Bitcoin ETFs อาจต้องการเวลาพัฒนามากกว่านี้
“การเทรด Bitcoin แบบสปอตในช่วงแปดเดือนที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นแล้วว่า การสร้างและรอให้กลุ่มนักลงทุนรุ่นเก่ามาใช้นั้นไม่เคยเกิดขึ้นจริง”
โดย ข้อมูลจาก Farside Investors ระบุว่า กองทุน Bitcoin ETFs ของสหรัฐฯ มีการไหลออกสุทธิกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงแปดวันที่ผ่านมา โดยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่บริหารจัดการอยู่ในกองทุนเหล่านี้ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 48 พันล้านดอลลาร์ จากจุดสูงสุดที่ 61 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมีนาคม
Bianco เสริมว่า ในตอนนี้มี “เงินใหม่ที่เข้าสู่ตลาดคริปโตน้อยมาก” เนื่องจากการไหลเข้าของเงินทุนส่วนใหญ่มาจากผู้ถือคริปโตที่ย้ายกลับไปยังบัญชีการเงินดั้งเดิม (Trad-fi)
ซึ่งสอดคล้องกับ Samara Cohen หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของ BlackRock ที่ได้ระบุเมื่อเดือนมิถุนายนว่า ประมาณ 80% ของการซื้อ Bitcoin ETFs มาจากบัญชีออนไลน์ที่ผู้ซื้อเป็นคนดูแลเอง
และด้วยปัญหาทั้งหมดในตอนนี้ Bianco คาดการณ์ว่า Bitcoin Halving ในปี 2028 และการพัฒนาของเครื่องมือบนบล็อกเชนจะเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้ตลาดนี้เติบโตเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วยกับมุมมองของ Bianco โดย Eric Balchunas นักวิเคราะห์อาวุโสของ Bloomberg ชี้ว่ากองทุน Bitcoin ETFs มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการหลายพันล้านดอลลาร์ หลังจากเปิดตัวได้เพียงแปดเดือน
ทั้งนี้ บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: Cointelegraph